ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ระดมนักดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล พื้นฟูอ่าวกะรน ส่วนใหญ่พบขวดพลาสติก เชือกขนาดใหญ่ อวน ยังไม่หมด เก็บอีกรอบวันที่ 3 ธ.ค.นี้ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการไม่ให้ทิ้งขยะลงทะเล
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่บริเวณชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดกิจกรรม “เก็บขยะใต้ทะเล พื้นฟูอ่าวกะรน” ซึ่งสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลกะรน นักดำน้ำอาสาสมัคร ชมรมเรือหางยาวท่องเที่ยวตำบลกะรน และผู้เกี่ยวข้องจัดขึ้น เนื่องจากมีการนำเสนอภาพขยะใต้ทะเลกองทับถมกันเป็นจำนวนมากที่บริเวณแหลมไทร และจากการสำรวจของทางเจ้าหน้าที่พบว่า มีปริมาณขยะกระจายอยู่เป็นวงกว้าง เนื้อที่ประมาณ 400 ตารางเมตร โดยมี นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เรือหางยาวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชมรมเรือหางยาวเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 3 ลำ และเรือศูนย์อนุรักษ์ฯ 1 ลำ พร้อม นักดำน้ำ จำนวน 25 คน ลงดำน้ำเก็บขยะบริเวณแหลมไทร ซึ่งเป็นจุดที่พบว่า มีขยะกองรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก
นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กล่าวถึงการจัดกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเล ดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ได้มีสื่อแขนงต่างๆ รายงานข่าวกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพขยะใต้ทะเลจำนวนมากบริเวณหาดกะรน อ.เมืองภูเก็ต และมีการส่งต่อจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องความสะอาด ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง เพราะว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเที่ยว เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความสวยงามทั้งผืนทราย และน้ำทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำนักดำน้ำลงเก็บขยะใต้ทะเลดังกล่าว เพื่อเก็บขยะบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าหากมีคลื่นลมแรงกองขยะจะถูกคลื่นซัดกระจัดกระจายเข้าไปยังแนวปะการังจนได้รับความเสียหาย และยากต่อการดำเนินการ อีกทั้งขยะส่วนที่เป็นพลาสติกอาจทำให้สัตว์ทะเลหายากคิดว่าเป็นอาหาร และกินเข้าไป รวมถึงเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันระยะยาว ทางสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลฯ จะขอความร่วมมือการประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการโรงแรม และเรือท่องเที่ยวไม่ให้ทิ้งขยะลงไปในทะเล และหลังจากนี้ ก็จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ฯ ลงตรวจสอบ และสำรวจทุกสัปดาห์ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่อื่นๆ และหากพบขยะอีกก็จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ฯ ลงจัดเก็บทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ไปกระทบต่อแนวปะการังใต้ทะเล
ด้าน นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ให้หันหน้าเข้าหากันเพื่อดูแลทรัพยากรของจังหวัดภูเก็ต แต่ที่สำคัญคือ การปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนช่วยกันดูแลทรัพยากรให้ดี สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนานที่สุด ที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ตของเราเป็นไข่มุกอันดามันที่ยังงดงามตลอดไป นอกจากนั้น ในส่วนของเทศบาลตำบลกะรน ก็มีการเก็บขยะตามชายหาดทุกเช้าอยู่แล้ว และก็จะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบให้มีการประชาสัมพันธ์ถึงนักท่องเที่ยวไม่ให้ทิ้งขยะลงไปในทะเล
ขณะที่ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ เพื่อพิทักษ์รักษาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งให้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป และเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการร่วมกันทำความดี เสมือนเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองปกป้องทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของชาติให้คงอยู่ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนคนรุ่นหลังซึ่งเป็นอนาคตของชาติสืบไป
อย่างไรก็ตาม นายวัชรินทร์ กล่าวหลังจากที่นักดำน้ำลงไปเก็บขยะใต้ทะเล ว่า ขยะที่พบส่วนใหญ่จะเป็นขวดน้ำพลาสติก เชือกขนาดใหญ่ ร่มชายหาด ผ้าขนาดเล็ก อวน กล่องโฟม ซึ่งในช่วงเช้านักดำน้ำสามารถเก็บขยะขึ้นมาได้ประมาณ 200 กิโลกรัม โดยยังไม่ถึงครึ่งของปริมาณขยะเหลืออยู่ และในช่วงบ่ายคาดว่าน่าจะเก็บขยะได้อีก 200 กิโลกรัม และคาดว่าน่าจะเก็บขยะได้ประมาณ 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% จะลงเก็บอีกครั้งในวันที่ 3 ธันวาคม 2558 นอกจากนี้ ยังพบว่าขยะเริ่มเข้าไปบริเวณใกล้แนวปะการังแล้ว แต่ยังไม่ทำลาย หลังจากนี้ก็จะให้เจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของปะการังอีกครั้ง