ลำปาง - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังรวบผู้ต้องหาเจาะต้นไม้ใส่ยาให้แห้งตาย ก่อนแผ้วถางทำไร่ข้าวโพดกว่า 7 ไร่
นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และ นายสุรัชฐนพ สิงหาคำ หน.ฝ่ายการมีส่วนร่วมด้านการป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยนายจรัล สอาดจิตต์ หน.ฝ่ายป้องกันรักษาป่า ได้ประสานงานร่วมกับ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญ ฝปก.ที่ 3 ศปป.4 กอ.รมน. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ลำปาง และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.30 (แม่โป่ง) และ ลป.31 (แม่หวด) พร้อมตำรวจ กก.4 บก.ปทส. จำนวนกว่า 15 นาย ได้เข้าตรวจสอบบริเวณป่าท้ายหมู่บ้าน บ้านท่าเจริญ หมู่ 9 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่โป่ง หลังได้รับแจ้งว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้มีการบุกรุกถูกแผ้วถางใหม่มีพื้นที่กว้างประมาณ 7 ไร่เศษ
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็พบว่ามีต้นไม้จำนวนกว่า 50 ต้น ซึ่งมีทั้งไม้สัก ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ และไม้ยอป่า ถูกตัดโค่น โดยมีขนาดความโตกว่า 40 เซนติเมตร ถูกตัดโค่น ระหว่างตรวจสอบพบว่ามีคนกำลังตัดไม้เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม ทราบชื่อคือ นายไพรัช ทองทิพย์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 6 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง ก่อนจะยึดของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป. 30 (แม่โป่ง) ซึ่งคิดค่าเสียหายของรัฐ เป็นเงินกว่า 500,696 บาท
หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.งาว เพื่อสอบสวนหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดและขยายผลการจับกุมต่อไป
นายไพรัช ทองทิพย์ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า พื้นที่บุกรุกใหม่ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทั้งหมดนั้นเป็นของตนเองทั้งหมด โดยจะทำการแผ้วถางเพื่อจะทำไร่ข้าวโพด
นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเองยังพบว่าที่บริเวณดังกล่าวได้มีการเจาะต้นไม้ โดยชาวบ้านมักจะใช้ขวานเจาะที่โคนต้นไม้ให้เป็นรูก่อนจะใช้ยาฆ่าหญ้าฉีดเข้าไปที่โคนต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตายและจะได้ทำการแผ้วถางป่าได้ง่ายขึ้น
โดยที่พบต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 5 ต้น ทั้งไม้สัก ไม้ประดู่ และชิงชัน ซึ่งแต่ละต้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี ที่ถูกเจาะและโค่น จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดและมาตรการในการเฝ้าระวังติดตามผู้ที่จะเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่าตัดต้นไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแห่งนี้หากพบให้จับกุมดำเนินคดีทันที