ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นักกีฏวิทยาฯ กรมอุทยานฯ ลุยดูสภาพต้นสักยักษ์กลางป่าขุนยวม เมืองสามหมอก หลังถูกมอดไม้เจาะลำต้นหยอดยาฆ่าหญ้ารอยืนต้นตายเกือบครึ่งร้อย ล่าสุดพบบางส่วนคืนชีพได้แล้ว
วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.วัฒนา ศักดิ์ชูพงษ์ นักกีฏวิทยาชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงหล้า ได้เข้าตรวจสอบสภาพต้นสักบริเวณห้วยมะเดื่อ บ้านห้วยส้าน หมู่ที่ 2 ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม ที่ถูกเจาะโคนต้นแล้วใส่ยาฆ่าหญ้าเพื่อให้ยืนต้นตายถึง 41 ต้น
จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1337 ประมาณ 4 กม. คณะเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินเท้านานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ โดยเฉพาะต้นสักที่ขึ้นเรียงรายกันจำนวนร้อยกว่าต้น มีทั้งต้นเล็ก-ใหญ่ แต่มีต้นสักที่กำลังรอวันตายจากฤทธิ์ของยาฆ่าหญ้าอีกจำนวนไม่น้อย
ทีมงานของ ดร.วัฒนา ศักดิ์ชูพงษ์ นักกีฏวิทยาฯ ซึ่งได้รับคำสั่งจากรองอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้มาช่วยทำการปฐมพยาบาลรักษาชีวิตต้นไม้สักที่ถูกกลุ่มมอดไม้แอบเจาะหยอดยาฆ่าหญ้าได้เดินตรวจสภาพต้นไม้สักหลังจากที่ได้ปฐมพยาบาลมาร่วมหนึ่งเดือน โดยใช้มีดปาดเปลือกในส่วนที่โดนยาฆ่าหญ้าออก ปรับแต่งรอยขึ้นใหม่เพื่อเอาส่วนที่ถูกยาฆ่ายาออกแล้วก็นำยาบำรุงรักษาลำต้นเข้าใส่แทนเพื่อให้ต้นไม้ได้ดูดซึมเลี้ยงลำต้นและใบต่อสู้กับยาฆ่าหญ้า พร้อมพรวนดินตัดรากใส่ปุ๋ย ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ทำให้ช่วยชะล้างยาฆ่าหญ้าได้บางส่วน
ดร.วัฒนากล่าวว่า หลังจากที่เราใส่ยาบำรุงลงไปแล้ว พบว่าต้นไม้ที่ยังมีสภาพคงที่ประมาณ 15 ต้น ในส่วนที่ดีขึ้นแตกใบอ่อนเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 25 ต้น แสดงว่ามันสามารถปรับสภาพพัฒนาลำต้นต่อสู้กับยาฆ่าหญ้าได้แล้ว คาดว่าคงจะรอดตาย 50% ส่วนต้นที่ยังคงมีใบยังเหลืองอยู่เราก็จะมาดูอีกในเดือนต่อไปว่ามันจะดีขึ้นหรือว่าแย่ลง แต่ตนคิดว่ามันน่าจะดีขึ้น
