ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จับแล้วผู้ต้องหาขโมยรถสิบล้อบรรทุกน้ำตาล 16 ตันหน้าตลาดน้ำพองกลางดึก อ้างเฉยแค่ขับรถกลับบ้าน โทษคนขับผิดเองเสียบกุญแจติดเครื่องรถไว้ แถมอ้างอีกเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว แต่ชนะคดีเพราะมีบัตรคนพิการหูหนวก
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น นายทรงเดช เร่งสมบูรณ์ เจ้าของบริษัทสหขนส่งเลย-อุดร จำกัด เข้าพบตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพื่อช่วยติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 70-0786 เลย พร้อมน้ำตาลบรรจุถุง 320 กระสอบ น้ำหนัก 16 ตัน ถูกคนร้ายชิงเอาไปจากบริเวณริมถนนมิตรภาพ หน้าตลาดน้ำพอง ตำบลบ้านพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา
นายทรงเดชกล่าวว่า รถบรรทุกคันดังกล่าว มีนายบุญชม เลื่อนชัยภูมิ อายุ 60 ปี เป็นคนขับ โดยรับน้ำตาลจากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งในเขตอำเภอน้ำพองเพื่อเตรียมไปส่งให้ลูกค้าที่โรงงานผลิตบรั่นดีชื่อดังที่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งนายบุญชมได้จอดรถข้างทางโดยเสียบกุญแจไว้ ก่อนที่จะเดินข้ามถนนไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อ ระหว่างกดเงินมีชายหนุ่มอายุประมาณ 40 ปีเดินสวนไปก่อนที่จะขึ้นไปที่รถแล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าทางตัวเมืองขอนแก่น ทำให้น้ำตาลน้ำหนัก 16 ตัน มูลค่า 330,000 บาท และรถบรรทุกสิบล้อ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาทต้องสูญไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้สืบสวนพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานไปยังตำรวจใกล้เคียง จนสามารถทราบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวได้จอดอยู่ที่หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลป่าหวายนั่ง อำเภอบ้านฝาง รอยต่ออำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา คือนายสมบัติ เจริญสุข อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 5 บ้านโนนกู่ ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะที่กำลังนำน้ำตาลลงจากรถเพื่อแบ่งจำหน่ายให้แก่ชาวบ้านใกล้เคียง จึงนำกำลังเข้าจับกุม
นายสมบัติให้การว่า ไม่ได้ขโมยรถ แต่ต้องการกลับบ้าน เห็นรถจอดอยู่โดยไม่ได้ดับเครื่องจึงขึ้นไปขับออกมาเพื่อจะกลับบ้านโนนกู่ แต่เมื่อมาถึงหน้า อบต.ป่าหวายนั่ง น้ำมันรถหมด ประกอบกับตนไม่มีเงินเติมน้ำมัน จึงได้เปิดผ้าใบคลุมรถดูเห็นว่ามีน้ำตาลอยู่เต็มคันรถจึงนำลงมาขายให้ชาวบ้านที่ผ่านไปมา จึงได้ตักขายในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ได้เงินมาพันกว่าบาทจึงไปหาซื้อน้ำมันมาเติมรถ แต่ถูกจับได้เสียก่อน
นายสมบัติอ้างอีกว่า ตนไม่ได้กระทำผิด เนื่องจากคนขับรถพลาดเอง สตาร์ทเครื่องไว้ ช่วยไม่ได้ที่ไม่รอบคอบ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้เคยก่อมาแล้วที่ จ.ปทุมธานี ถูกจับดำเนินคดีมาแล้ว ตนไม่ผิดเพราะต้องการรถกลับบ้าน และตนก็มีบัตรคนพิการ ไม่กลัวความผิด ถึงอย่างไรขึ้นศาลก็ปล่อยตัวอยู่ดี
จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสตางค์นายสมบัติ พบบัตรคนพิการ 1 ใบ โดยระบุประเภทความพิการ คือ ประเภท 2 หูตึง หูหนวก ก่อนที่จะถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป