เชียงใหม่ - นักวิชาการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ทุ่มเวลานานถึง 11 ปีศึกษาวิจัยผลิตข้าวเหนียวสายพันธุ์ใหม่ “กข-แม่โจ้ 2” สำเร็จแล้ว มีรางวัลการันตีพร้อมสรรพ ย้ำคุณสมบัติเด่นปลูกในภาคเหนือตอนบนได้ตลอดทั้งปี นาปีให้ผลผลิต 685 กก./ไร่ เตรียมผลิตเมล็ดพันธุ์ขายเกษตรกรต้นปีหน้า
วันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ แสงทอง นักวิชาการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับกรมการข้าวใช้เวลานานถึง 11 ปีศึกษาวิจัยการผลิตข้าวเหนียวสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเหมาะสำหรับการปลูกในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีจนสำเร็จแล้ว และเตรียมเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีแจกและขายให้เกษตรกร ในงานเกษตรแม่โจ้ ต้นปีหน้า
โดยได้นำข้าวหอมพันธุ์ปทุมธานี 1 เป็นพันธุ์รับ ผสมกับข้าวเหนียวหอมพันธุ์ กข 6 ซึ่งใช้เป็นพันธุ์ยีน เพื่อควบคุมความเป็นข้าวเหนียว ปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีกลับ และใช้เครื่องหมายโมเลกุลช่วยในการคัดเลือก ทำการผสมกลับไปมา 4 ครั้ง ทำให้ได้ข้าวเหนียวหอมสายพันธุ์ใหม่ และได้รับการจดทะเบียนรับรองจากคณะกรรมการรับรองพันธุ์ กรมการข้าว และให้พันธุ์รับรองชื่อ “ข้าวเหนียว กข-แม่โจ้ 2”
ลักษณะข้าวเหนียวพันธุ์ กข-แม่โจ้ 2 เป็นข้าวเหนียวต้นเตี้ย ไม่ไวต่อช่วงแสง เป็นข้าวเหนียวมีกลิ่นหอมอ่อน เมล็ดเรียวยาว ระยะเก็บเกี่ยวประมาณ 138 วันในฤดูนาปี และ146 วันในฤดูนาปรัง ลักษณะกอแข็ง รวงยาว 29 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 99-105 เซนติเมตร จำนวนเมล็ดต่อรวง 113 เมล็ด และเมล็ดร่วงง่าย ได้ผลผลิตนาปี 685 กิโลกรัมต่อไร่ จนได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นระดับดีเด่น จากสภาวิจัยแห่งชาติ และรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น จากกรมการข้าว ในปี 2555 และได้รับการรับรองชื่อพันธุ์ในปี 2558 นี้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์บอกว่า ข้าวเหนียวหอม กข-แม่โจ้ 2 หากนำไปนึ่งรับประทานจะมีความหอมอร่อย โดยเฉพาะหากนำไปทำข้าวเหนียวมูลจะยิ่งอร่อยมากๆ วิธีการนึ่งต้องแช่ข้าวไว้ 1 คืน จากนั้นล้างข้าวด้วยน้ำเปล่า 3 ครั้งจนสะอาด ตั้งน้ำให้เดือด นึ่งทิ้งไว้ 20 นาที แล้วทำการกลับข้าว และนึ่งต่ออีก 20 นาที ถ้าข้าวนิ่มก็สามารถรับประทานได้
