พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยาสนธิกำลังทหาร บุกทลายแหล่งผลิตน้ำมันเครื่องปลอมในพื้นที่อำเภอท่าเรือ ได้ของกลางเพียบ ผู้ต้องหารับสารภาพ ตำรวจเตรียมขายผลต่อ
วันนี้ (4 ธ.ค.) พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ ผกก.สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน 17 รักษาพระองค์ นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 37 ม.6 ต.ท่า หลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากสืบทราบว่าเป็นสถานที่ลักลอบผลิตน้ำมันเครื่อง ปลอม
จากการตรวจสอบภายในบ้านพบถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรภายในบรรจุน้ำมันเครื่องหรือ น้ำมันล่อลื่นจำนวน 19 ถัง น้ำมันเครื่องบรรจุในแกลอน ขนาด3 ลิตร จำนวน 40 ลัง จำนวน 320 แกลอน น้ำมันเครื่องขนาด 1 ลิตร จำนวน 100 ลัง รวม 1,200 แกลอน น้ำมันเครื่อง บรรจุใน แกลอน ขนาด 0.7ลิตร จำนวน 150 ลัง 1,800 แกลอน มูลค่าหลายแสนบาท
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือกรอกน้ำมันจำนวน 1 เครื่อง เครื่องซีนฝาแกลอนน้ำมัน จำนวน 1 เครื่อง แผ่นสติกเกอร์ยี่ห้อน้ำมันมาก แกลอนน้ำมัน ขนาดต่างๆ จำนวนมาก โดยมีนายบุญมี ภูนารี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/904 ม.4 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นายสายชล หรือชล ใบศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 ม.8 ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก แสดงตนเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว
สอบสวนนายบุญมี ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายนิรัตน์ หรือปู บรรณรัตน์ ซึ่งเป็นลูกเขยของเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ลักลอบนำน้ำมันปลอม จากนายเม้ง ไม่ทราบนามสกุล จริงและนามสกุลจริง อายุประมาณ 50 ปีอยู่ในกรุงเทพมหานคร เป็นผู้นำน้ำมันเครื่องมาส่งให้ ตนจากนั้นได้ดำเนินการบรรจุน้ำมันใส่แกลอนขนาดต่างๆ ติดสติกเกอร์สลากยี่ห้อน้ำมันเครื่องชื่อดัง บรรจุใส่ลัง จากนั้นนายเม้ง จะมารับน้ำเครื่องไปขายอีกทอดหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีเองเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอศ.จับกุมมาแล้ว
จากการสืบสวนขยายผลทราบว่านายเม้ง ได้น้ำมันเครื่องซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและอายัดเป็นของกลาง คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนในชั้นศาลอุทรณ์ นำของกลางออกมาผลิตขายอีก
พล.ต.ต.สุทธิ เปิดเผยว่า มีประชาชนพบเห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการขนถ่ายถังน้ำมันจำนวนมากผิดปกติ จึงได้เข้ามาตรวจสอบพบการผลิตน้ำมันเครื่องเถื่อน ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องที่ไม่ผ่านการตรวจคุณภาพตามมาตรฐาน ซึ่งน้ำมันเครื่องที่พบจะมีการนำไปขายเพื่อใช้กับเครื่องยนต์ทางการเกษตร และรถจักรยานยนต์ เมื่อประชาชน เกษตรกรนำไปใช้จะทำให้เครื่องยนต์เกิดการชารุดเสียหายหรือเสื่อมสมรรถภาพเร็ว นับว่าเป็นความเสียหายอย่างมาก
"ต้องทำการสืบสวนขยายผลถึงกลุ่มขบวนการลักลอบผลิตดน้ำมันเครื่องเถื่อนกลุ่มนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาดำเนินคดีในข้อหาปลอมน้ำมัน หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันทำให้ลักษณะหรือคุณภาพของน้ำมันแตกต่างไปจากที่อธิบดีกำหนด และปลอมเครื่องหมายการค้า"