xs
xsm
sm
md
lg

จับพ่อทาสยาบ้ากระทืบลูกชายวัย 13 ขวบสาหัสกลายเป็นเจ้าชายนิทรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - พ่อโหดทุบตี และใช้เท้ากระทืบลูกชายวัย 13 ขวบจนสลบได้รับบาดเจ็บสาหัสกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ตำรวจคุมตัวมาสอบแต่ยังปากแข็งอ้างลูกชายล้มหัวฟาดพื้น ขณะที่การตรวจสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบพ่อโหดรายนี้เป็นผู้ติดยาเสพติด และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง ล่าท้ายยอมรับสารภาพ

วันนี้ (7 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าดูอาการ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ที่ถูกพ่อของตัวเองทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส สมองบวม หมดสติเป็นเจ้าชายนิทรา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ส.ค. นนายทัศนัย คล้ายคลึง อายุ 37 ปี ชาาว จ.พระนครศรีอยุธยา ได้โทรศัพท์แจ้งไปยังศูนย์กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาว่า ด.ช.เอ ลูกชาย เป็นลมล้มศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรงภายในห้องพัก ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายทัศนัย ได้อุ้มลูกชายมารอเจ้าหน้าที่อยู่ที่โรงแรมสวีทโฮม ห้อง 101 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยบุตรชายมีอาการหัวใจหยุดเต้นแล้ว นอกจากนี้ ตามลำตัวยังมีรอยช้ำหลายแห่ง มีเลือดออกในสมอง และช่องท้อง แพทย์จึงได้ใช้เครื่องกระตุ้นจนหัวใจกลับมาเป็นปกติแต่ยังไม่รู้สึกตัว 

น.ส.จินต์จุฑา รอดพาล หัวหน้าห้องผู้ป่วยไอซียู เปิดเผยว่า จากการสอบถามนางบุญมี รามภาพ อายุ 53 ปี ยายของ ด.ช.เอ ทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ส.ค.นายทัศนัย ได้ไปรับ ด.ช.เอ กับบุตรสาวอีกคน อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของนายทัศนัย กับอดีตภรรยาที่แยกทางกันคือ น.ส.สมบุญ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เป้นชาว อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประมาณ 1 ปีแล้ว โดยบอกว่าจะพาไปเที่ยว และซื้อเสื้อผ้าให้ใหม่ จากนั้น 2-3 วันจะพามาส่ง

จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 6 ส.ค. นายทัศนัย ได้โทรศัพท์ไปบอก น.ส.สมบุญ อดีตภรรยา ให้มาดูอาการลูกชายที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นางบุญมี จึงได้เดินทางมาด้วย และพบว่า ด.ช.เอ อยู่ในสภาพเป็นเจ้าชายนิทรา มีร่องรอยถูกทำร้าย จากการสอบถามน้องสาวของ ด.ช.เอ ได้เล่าให้ฟังว่า พ่อคือ นายทัศนัย ทำร้ายร่างกาย ด.ช.เอ ด้วยการทุบตีแถมยังใช้เท้ากระทืบจนสลบอีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายทัศนัย เบื้องต้นได้ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ลูกชายได้หนีออกไปเล่นเกมตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. และกลับมาถึงห้องจนช่วงเช้าอีกวันตนได้ปลุกให้ลูกชายตื่น เมื่อตื่นขึ้นมามีอาการเดินโซเซแล้วล้มลงศีรษะกระแทกพื้นหมดสติไป

แต่ทางโรงพยาบาล และญาติได้สอบสวนรายละเอียดแล้วพบพิรุธหลายอย่าง ประกอบกับบุตรสาวได้เล่าเหตุการณ์ที่ นายทัศนัย ทำร้ายร่างกายพี่ชายให้ฟัง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน และเข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในห้องพักที่เกิดเหตุ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้ไปเชิญตัว นายทัศนัย มาสอบสวน เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ โดยยืนยันว่า ลูกชายล้มศีรษะกระแทกพื้นเอง แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายทัศนัย ได้เข้ามาเช่าพักห้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 ส.ค.57 ติดต่อกันมาถึงวันที่ 6 ส.ค.57 โดยมีลูกชาย และลูกสาวมาอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของนายทัศนัย แล้ว ทราบว่า เป็นผู้ติดยาเสพติด และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 ได้ไปเชิญตัว นายทัศนัย มาสอบสวน เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ โดยยืนยันว่า ลูกชายล้มศีรษะกระแทกพื้นเอง แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายทัศนัย ได้เข้ามาเช่าพักห้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 ส.ค.57 ติดต่อกันมาถึงวันที่ 6 ส.ค.57 โดยมีลูกชายและลูกสาวมาอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของนายทัศนัย แล้ว ทราบว่า เป็นผู้ติดยาเสพติด และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนนายทัศนัย อยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดนายทัศนัย จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุทำร้าย ด.ช.เอ จนสลบและบาดเจ็บสาหัสจริง ดดยก่อนเกิดเหตุได้ให้ลูกชายไปขอเงินพระ ซึ่งเป็นญาติกันจำนวน 200 บาทเพื่อนำมาซื้อยาบ้าเสพ แต่กลับได้มาเพียง 120 บาท ทำให้ไม่พอซื้อยาบ้าจึงเกิดอาการคลุ่มคลั่ง ทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี ใช้เท้าเตะ กระทืบ และชกต่อย ยกตัวทุ่มลงกับพื้นจนสลบแน่นิ่งไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบตัวเอาไว้แล้วพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น