ลำปาง - กอ.รมน.นำทีมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตะลุยเดินป่าตรวจตามรอยมอดไม้เมืองลำปาง พบลอบตัดประดู่ยักษ์ขนาด 3 คนโอบอายุกว่า 150 ปีเหลือแต่ตอไม่พอ ยังลักตัดไม้สักกลางสวนป่า ชิงชัน ไม้มะค่า แปรรูปขนออกนอกพื้นที่อีกเพียบ เชื่อคนมีสีอยู่เบื้องหลัง ทำเป็นขบวนการใหญ่ระดับภาค
วันนี้ (3 ธ.ค.) พ.อ.พงเพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายปฏิบัติการ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ประสานการปฏิบัติการที่ 4 กองอำนวยการความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ศปป.4 กอ.รมน.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท, เจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ในพื้นที่ อ.งาว ทั้ง 4 หน่วย, เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่สวนป่าแม่หยวก เดินเท้าเข้าไปตามลำห้วย ซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายงาว-พะเยา (ขาเข้า อ.งาว) เข้าไปในป่าประมาณ 500 เมตร
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบเหตุกลุ่มมอดไม้ที่เข้าไปลักลอบตัดต้นประดู่ขนาดใหญ่ประมาณ 3 คนโอบ อายุมากกว่า 150 ปี ซึ่งได้นำไม้ออกไปแล้วบางส่วน และทิ้งของกลางที่เหลือไว้อีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกไปในรัศมีประมาณ 2 กิโลเมตร พบบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างติดลำห้วย อยู่เขตสวนป่าแม่หยวก ห่างถนนสายงาว-พะเยา ขาไปพะเยา ประมาณ 50 เมตร มีเศษปีกไม้จำนวนมากที่นำมาก่อสร้างที่พักดังกล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบร่องรอยทิ้งลงไปในข้างทาง จึงตามไปตรวจสอบ พบเป็นเศษปีกไม้ประดู่ที่นำมาจากจุดที่ลักลอบตัดจุดแรกมาสร้างเป็นที่พัก และพบร่องรอยการตัดต้นสัก-แปรรูปไม้สักอีกหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงตามรอยไปจนพบว่ามีต้นสักอายุประมาณ 30-50 ปี ที่อยู่ในสวนป่าถูกลักลอบตัดไปมากกว่า 10 ต้น และได้มีการลักลอบแปรรูปไม้ขนออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้ของกลางทั้งหมดนำมาเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.30 แม่โป่ง จากนั้นให้ทาง นายศิริพงศ์ พรหมจิตร หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.30 แม่โป่ง ทำบันทึกเพื่อส่งพนักงานสอบสวน สภ.งาว ดำเนินการต่อไป
พ.อ.พงเพชรกล่าวว่า ในพื้นที่ จ.ลำปาง โดยเฉพาะ อ.งาว มีการร้องเรียนเข้าไปยังศูนย์ฯ ว่ามีการลักลอบตัดไม้ประดู่ ชิงชัน มะค่า และไม้สัก เพื่อทำการส่งออกไปยังต่างประเทศ แทนไม้พะยูงจากทางภาคอีสานที่กำลังถูกปราบปรามอย่างหนัก จึงหันมาเอาไม้ชิงชันในพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยจะตัดไม้มีขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร ตามความต้องการของต่างประเทศ ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่แห่งนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง
หลังรับแจ้งจึงจัดกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรม และการเคลื่อนไหว จนกระทั่งตามเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มมอดไม้เหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมีสี และคาดว่าน่าจะเป็นตัวการใหญ่ระดับภูมิภาค จึงมักจะจับกุมบุคคลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จะเร่งสืบสวนขยายผลหาตัวการให้ได้ พร้อมจะลงพื้นที่ตรวจสอบทุกแห่งที่ได้รับการร้องเรียน