บุรีรัมย์- ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีบุรีรัมย์เมินไม่ปรับเรียงช่องทีวีดิจิตอล 1-36 ใหม่ ตามประกาศ กสทช.ที่เริ่มมีผลบังคับใช้วันนี้ อ้างยุ่งยากและต้องเสียค่าใช้จ่ายออกให้บริการลูกค้า เพราะขณะนี้ได้รับผลกระทบลูกค้าลดลงมากกว่าครึ่งจากการเปลี่ยนระบบ พร้อมยันออกอากาศตามปกติ
วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีหรือโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังไม่ปรับเรียงช่องทีวีดิจิตอลช่อง 1-36 ใหม่ ตามประกาศของ กสทช.ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 เป็นวันแรก โดยอ้างว่าจะเกิดความยุ่งยากและต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการออกให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเคเบิลทีวีก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระบบออกอากาศจากระบบแอนะล็อกเป็นระบบดิจิตอล ทำให้ลูกค้าที่เคยใช้บริการลดลงมากกว่าครึ่งอยู่แล้ว
จนผู้ประกอบการเคเบิลทีวีที่มีอยู่ 2 แห่งในตัวจังหวัดที่เคยแข่งขันกันในการทำธุรกิจต้องหันมาจับมือกันเหลือเพียงแห่งเดียวเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเครื่องส่งสัญญาณ ค่าลิขสิทธิ์ ค่าจ้างพนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินการต่อไปได้ พร้อมยืนยันว่าจะยังคงออกอากาศตามช่องปกติเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามประกาศของ กสทช.
นายทวีพงษ์ ไกรรณภูมิ ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า ระบบเคเบิลทีวีมีข้อจำกัดจำนวนความถี่ช่องออกอากาศอยู่แล้ว ซึ่งสามารถออกอากาศได้เพียง 50 ช่อง ที่ความถี่ 550 เมกะเฮิรตซ์ จากกรณีที่ กสทช.เข้ามาควบคุมให้ออกอากาศตามที่กำหนดทั้ง 36 ช่อง โดยเหลือให้เคเบิลออกอากาศได้เพียง 14 ช่อง ทางเคเบิลไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ดังนั้นจึงยังไม่มีการปรับเรียงช่องตามที่ กสทช.ประกาศ และยังคงจะออกอากาศตามปกติเหมือนเดิม
“แค่รัฐบาลปล่อยออกอากาศระบบติจิตอล พร้อมทั้งแจกกล่องรับสัญญาณให้กับประชาชนทั่วประเทศชมฟรี ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเคเบิลทีวีทำให้ลูกค้าที่เคยใช้บริการหายไปเกิน 50 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว จากเดิมที่เคยมีลูกค้ามากกว่า 3,000 คน ปัจจุบันเหลือเพียง 1,000 คนเท่านั้น จึงอยากฝากถึงรัฐบาล และ กสทช. ควรจะให้การสนับสนุนหาช่องดีๆ ให้เคเบิลออกอากาศจะดีกว่าที่จะเข้ามาควบคุมหรือบีบบังคับให้ทำตาม โดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดแก่ผู้ประกอบการ” นายทวีพงษ์กล่าว