ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองแสนสุขคาดการท่องเที่ยวชายหาดบางแสนตลอดปี 2558 จะไม่เติบโตจากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1.7 ล้านคน จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และถนนหนทางที่สะดวกขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ ขณะที่ผลกระทบทางธรรมชาติ รวมถึงเหตุก่อการร้ายในต่างประเทศ ทำให้ประชาชนไม่กล้าอยู่ในที่ที่มีคนหมู่มาก
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข เผยถึงภาวะการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบางแสนตลอดปี 2558 ว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการสรุปจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบางแสน จาก ททท.อย่างเป็นทางการ แต่เมื่อดูจากผลประกอบการของร้านค้า โรงแรม และผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดก็พบว่าปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง และปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีที่ในปีนี้เกิดแพลงก์ตอนบูมเข้าชายหาดบางแสนถึง 4 ครั้ง ไม่นับรวมผลกระทบเรื่องกลิ่น ก็เชื่อได้ว่าการท่องเที่ยวของชายหาดบางแสนในปีนี้จะไม่เติบโตมากกว่าปีก่อน
โดยในปี 2557 ชายหาดบางแสนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติ รวมทั้งนักทัศนาจร และกลุ่มผู้เดินทางเข้าพักเพื่อการสัมมนาในโรงแรมต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ประมาณ 1.7 ล้านคน
ขณะที่จำนวนห้องพักที่มีอยู่ในพื้นที่ หากเป็นห้องพักในระบบโรงแรมมีจำนวนน้อยกว่า 2 พันห้อง แต่หากรวมเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเกสต์เฮาส์เข้าด้วยคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 พันห้อง ไม่นับรวมเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และอพาร์ตเมนต์ อีกจำนวนไม่น้อยที่หันมาให้บริการปล่อยเช่าห้องพักรายวัน ซึ่งเทศบาลเมืองแสนสุขอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อชี้แจงให้ผู้ประกอบการเข้าใจว่าไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากผิดกฎหมาย ที่สำคัญหากยังปล่อยให้มีการกระทำในลักษณะนี้ในอนาคตชายหาดบางแสน จะประสบปัญหาโอเวอร์ซัปพลายอย่างแน่นอน
“ที่ขณะนี้เทศบาลฯ ยังไม่เข้มงวดกับผู้ประกอบการที่ให้บริการผิดกฎหมาย เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย เบื้องต้นจึงจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ก่อน ประกอบกับปัจจุบันการเดินทางค่อนข้างสะดวก จากการเกิดใหม่ของถนนหลายสาย ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวแบบไป-กลับ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย จึงทำให้ธุรกิจห้องเช่าในขณะนี้ค่อนข้างซบเซา นอกจากนั้นยังมีหอพัก และคอนโดมิเนียมเกิดใหม่อีกมากเข้ามาแชร์ตลาด เทศบาลฯ ก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการหอพักให้ช่วยเข้มงวด ขณะนี้จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ให้เป็นไปตามกฎหมายแล้ว”
นายณรงค์ชัยกล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวชายหาดบางแสนในปีหน้ายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะต้องรอดูภาวะเศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมือง และสถานการณ์โลกเป็นหลัก ทั้งนี้เพราะเหตุร้ายในประเทศฝรั่งเศสทำให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องการอยู่ในที่ที่มีคนหมู่มาก รวมทั้งการประหยัดค่าใช้จ่ายตามภาวะเศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐบาลที่ยังไม่สนับสนุนให้มีการจัดสัมมนานอกสถานที่ของหน่วยงานราชการ ก็อาจมีผลกระทบต่อยอดการเข้าพักและการท่องเที่ยวของชายหาดบางแสนอยู่
“การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอาจกระทบต่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของบางแสนในช่วงปลายปีบ้าง แต่ก็คงไม่มากนัก เพราะบางแสนยังถือเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่มาก เช่นเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปีนี้เราได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนให้ทำการโฆษณาให้กับเมือง ด้วยการดึงดาราชื่อดังระดับประเทศร่วมโพสต์ภาพถ่ายของชายหาดบางแสนลงในไอจี และคลิปวิดีโอส่วนตัวเพื่อกระตุ้นการรับรู้ของประชาชน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านรายการท่องเที่ยว เพื่อชี้แจงถึงปัญหาขยะที่ในแต่ละปีชายหาดบางแสนมีขยะถูกพัดจากทะเลเข้าฝั่งจำนวนมาก ซึ่งขยะที่เกิดจากการท่องเที่ยวมีไม่ถึง 10% แต่ที่เหลือ 90% เป็นขยะที่ถูกพัดมาจากแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา และการปล่อยปละละเลยของเรือขนส่งที่ทิ้งคราบน้ำมันลงทะเล”