xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมชาติจัดให้.. พบถ้ำหินงอกหินย้อยรอยต่อ อ.น้ำโสม-ปากชม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุดรธานี -ที่สุด! อลังการงานธรรมชาติสรรค์สร้าง พบถ้ำหินงอกหินย้อยที่รอยต่ออำเภอน้ำโสม กับอำเภอปากชม อบต. เตรียมทำแผนชงเรื่องพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณรอยต่อบ้านนาเมืองไทย อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี กับบ้านห้วยปากซืน อ.ปากชม จ.เลย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ถ้ำพระธาตุแก้ว พระสงฆ์ได้มีการค้นพบถ้ำหินงอกหินย้อยจำนวนหลายจุด บนพื้นที่หลายร้อยไร่

จึงได้ประสานงาน นายศิริศักดิ์ นูดำดี พนักงานพิทักษ์ป่าสังกัดอุทยานแห่งชาติ นายูง - น้ำโสม, นายสุวิทย์ รัตนะ เจ้าหน้าที่ตรวจป่า ป่าไม้หน่วยอุดรธานี 2 และนายดุสิต เจนวิถี นายก อบต.ห้วยบ่อซืน นำกำลังเจ้าหน้าที่ 6 นาย เข้าร่วมตรวจสอบ

จากการลงพื้นที่สอบถาม พระศุภชัย ภูริชโย พร้อมให้พาสำรวจ พบว่า บริเวณสำนักสงฆ์ถ้ำพระธาตุแก้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ภูโคก” นี้ขึ้นกับ หมู่ 6 บ.ห้วยบ่อซืน ต.ห้วยบ่อซืน อ.ปากชม จ.เลย โดยเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับหมู่ 10 บ.นาเมืองไทย ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี สำหรับถ้ำที่พบนั้นมีมากกว่า 10 ถ้ำ หรือมากกว่านั้น

ทั้งนี้ ก่อนที่อาตมาจะพบถ้ำนั้น เมื่อหลายเดือนก่อนได้นิมิตเห็นว่า บริเวณนี้มีถ้ำ ซึ่งภายในถ้ำมีลักษณะสวยและงดงามต่างกันไป ซึ่งได้เก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ได้บอกกับญาติโยม แล้วอาตมาก็เริ่มสำรวจ จากนั้นก็พบว่ามีถ้ำจริง เหมือนในนิมิตหลายถ้ำ

ถ้ำแรกที่พบตั้งชื่อว่า “ถ้ำสีวลี” มีทางเข้าออกทางเดียวกัน ปากทางเข้า - ออก มีความกว้างเพียง 60 ซม. เวลาจะเข้าต้องค่อย ๆ หย่อนขาลงไปเพื่อเหยียบบันไดไม้เก่า เมื่อเข้าไปข้างในก็จะพบกับหินย้อยรูปทรงประหลาด ด้านในสุดจะพบกับหินซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำ โดยจะเป็นแทงหลาย ๆ แทง คล้ายกับไม้เท้าของพระสีวลี และมีเกล็ดระยิบระยับคล้ายกับเพชร

ถ้ำที่สองชื่อ “ถ้ำทะลุ” ถ้ำห่างจากถ้ำแรกประมาณ 200 เมตร ซึ่งทางเข้าเข้าได้ไม่ลำบากมากนัก เพียงแค่ปีนหรือใช้เชือกหย่อนตัวลงไปก็จะเข้าได้ ภายในถ้ำมีความกว้าง แบ่งเป็น 3 ห้อง และเป็นทางลึกลงไป ทะลุอีกด้านของภูเขา ในถ้ำก็จะมีหินงอกหินย้อยแปลกตา

ถ้ำที่สามชื่อ “ถ้ำหลุบ” โดยถ้ำนี้อยู่ห่างจากถ้ำที่สองไปอีก 200 เมตร ถ้ำนี้มีความพิเศษก็ตรงหินย้อนที่พบตรงปกถ้ำ มีแร่เหล็กผสมอยู่มาก เมื่อเคาะจะมีเสียงกังวานสูงต่ำ ถ้ำนี้เวลาจะลงไปต้องใช้การโรยตัวลงมา เพราะจากปากทางเข้ามีความสูงชันและอันตราย ภายในก็จะพบหินงอกหินย้อยเช่นกัน

พระศุภชัย กล่าวเพิ่มอีกว่า ถ้ำที่พาเยี่ยมชมในครั้งนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่พาเข้าชมได้ หากจะเข้าไปดูทั้งหมดต้องให้เวลาไม่น้อยกว่า 2 วัน โดยถ้ำอื่นยังไม่ได้ตั้งชื่อ นอกจากจะพบความงามของถ้ำแล้ว ตอนที่อาตมาสำรวจแรกได้พบเจอกับพระพุทธรูปหินขาว นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา

นายสุวิทย์ รัตนะ เจ้าหน้าที่ตรวจป่า ป่าไม้หน่วยอุดรธานี 2 กล่าวว่า จากการสำรวจถ้ำพบว่าภายในมีหินงอกหินย้อยลักษณะสวยงามแปลกตา เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในเชิงนิเวศเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ขึ้นกับหน่วยป้องกันรักษาป่า เลย.11 เบื้องต้นได้เก็บภาพไว้รายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป

ด้าน นายดุสิต เจนวิถี นายก อบต.ห้วยบ่อซืน เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสำรวจถ้ำที่เพิ่งค้นพบในครั้งนี้ ภายในถ้ำยังคงความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต และจะร่วมกับชาวบ้านสำรวจโพรงถ้ำอีกหลายโพรงที่สามารถลัดเลาะเข้าไปได้ เพื่อสำรวจความงามของถ้ำแห่งนี้

ขณะนี้ อบต. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บภาพและสำรวจ เพื่อเอาเข้าที่ประชุมสภา และนายอำเภอ เพื่อของบประมาณมาส่วนหนึ่ง มาทำแนวกันไฟไว้ในเบื้องต้น จากนั้นก็จะทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย เพื่อขอคำชี้แนะ อาจจะเชิญมาประชุมเพื่อหาแนวทางพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป

ตอนนี้ถ้ำที่พบนั้นยังไม่สามารถเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะบริเวณทางเข้าออก และภายในถ้ำยังมีความยากลำบากและอันตรายมาก






กำลังโหลดความคิดเห็น