เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2015 ศูนย์ป้องกันสารพิษของสหรัฐอเมริกา ได้เตือนผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนเกี่ยวกับปัญหาของเด็กเล็กที่ได้รับสารพิษจากการดื่มแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเจลล้างมือ เนื่องจากผู้อำนวยการของศูนย์การป้องกันสารพิษในรัฐจอร์เจียได้รับรายงานว่ามีคนไข้ 2 ราย เข้ามาในโรงพยาบาลจากสาเหตุการได้รับสารพิษ
คนไข้รายแรกเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ ซึ่งเกิดเหตุหลังจากโรงเรียนเลิก โดยเธอมีอาการการพูดติดขัด และติดอ่าง คนไข้รายนี้ล้มและศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนด้วย คุณแม่ได้นำตัวลูกสาวส่งแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลในทันที และคุณหมอได้ค้นพบว่าคนไข้ได้กินเจลล้างมือที่มีกลิ่นสตรอเบอร์รี่ที่วางอยู่บนโต๊ะครูเข้าไปประมาณ 2 - 3 หยด
ระดับเลือดของเธออยู่ในระดับ 1.79 ซึ่งสูงเกือบถึง 2 เท่าของผู้ใหญ่ซึ่งได้รับการตรวจวัดสารแอลกอฮอล์ในเลือด
รายที่ 2 เป็นเด็กชายอายุ 5 ปี มาที่แผนกฉุกเฉินโดยระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ในระดับ 2.0 จากการกินเจลล้างมืออีกเช่นเดียวกัน
จากการศึกษาข้อมูลโดยรายละเอียดจากศูนย์ป้องกันสารพิษของสหรัฐอเมริกาในปี 2010 พบว่า มีคนโทรศัพท์มาถาม ถึงปัญหาของเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่กินเจลล้างมือโดยไม่ตั้งใจถึง 3,600 ราย และในปี 2013 จำนวนของผู้ที่กลืนเจลล้างมือมีมากถึง 16,000 ราย
สิ่งที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้
เจลล้างมือหลากหลายชนิดถูกผลิตออกมาในรูปของขวดที่น่ารัก และมีสีสันสดใส บางครั้งจะผสมกากเพชรสีระยิบระยับและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน เช่นกลิ่นหมากฝรั่ง กลิ่นมะนาว กลิ่นวานิลลา หรือกลิ่นสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีแอลกอฮอล์ปะปนอยู่ 40 ถึง 95% การได้รับสารเหล่านี้เข้าไปเพียงเล็กน้อยสามารถเป็นพิษกับเด็ก ๆ ได้ เพราะเป็นเหมือนการดื่มเหล้าอย่างแรง 2 ถึง 3 แก้วเล็ก ๆ เลยทีเดียว
คุณพ่อคุณแม่หลายคนและตัวผู้เขียนเองเคยส่งลูกไปโรงเรียนโดยมีเจลล้างมือติดกระเป๋าของลูกไปโรงเรียนด้วย แต่หากท่านผู้ปกครองได้ทราบข้อมูลใหม่ ว่า ท่านกำลังให้ลูกนำเหล้าวอดก้า ซึ่งมีความแรงถึงขนาด 2 เท่า หรือนำเหล้ารัม หรือขวดวิสกี้ ติดไปโรงเรียนด้วย คงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
อาการหลังจากได้รับสารพิษ คือ จะมีปัญหาเรื่องของการพูดติดขัด รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน อาเจียน อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ระดับความดันเลือด และการหายใจจะช้าลง หลังจากได้รับสารพิษระดับน้ำตาลในเลือดของเด็กจะต่ำลงอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การชักและถึงเข้าขั้นโคม่าได้
โดยปกติแล้วเจลล้างมือมักจะเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ผู้ปกครองจัดให้เด็กนำไปโรงเรียน โดยผู้ปกครองหลายท่านไม่ทราบว่าเจลล้างมือนั้น บรรจุแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นประเภทที่สามารถทำอันตรายต่อเด็กเด็กได้ เพราะว่าขวดเจลล้างมือมีขนาดเล็ก และง่ายต่อการพกพา แต่มีสารพิษบรรจุอยู่ภายในทำให้เด็กได้รับอันตรายมากกว่าผู้ใหญ่ถึงหลายสิบเท่า ผู้ปกครอง และคุณครูควรให้ความระมัดระวังกับเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ หากใช้จำเป็นต้องอยู่ในการควบคุมของผู้ใหญ่ ดังนั้น หากท่านผู้ปกครองต้องการนำเจลล้างมือไปโรงเรียนสามารถเลือกใช้ยี่ห้อที่ไม่บรรจุแอลกอฮอล์
ผู้เขียนเห็นว่าเจลล้างมือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และมีโทษในเวลาเดียวกัน จึงควรใช้อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของท่าน เป็นกำลังใจให้แก่ทุกครอบครัวเสมอค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
Webmd.com
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
คนไข้รายแรกเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ ซึ่งเกิดเหตุหลังจากโรงเรียนเลิก โดยเธอมีอาการการพูดติดขัด และติดอ่าง คนไข้รายนี้ล้มและศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนด้วย คุณแม่ได้นำตัวลูกสาวส่งแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลในทันที และคุณหมอได้ค้นพบว่าคนไข้ได้กินเจลล้างมือที่มีกลิ่นสตรอเบอร์รี่ที่วางอยู่บนโต๊ะครูเข้าไปประมาณ 2 - 3 หยด
ระดับเลือดของเธออยู่ในระดับ 1.79 ซึ่งสูงเกือบถึง 2 เท่าของผู้ใหญ่ซึ่งได้รับการตรวจวัดสารแอลกอฮอล์ในเลือด
รายที่ 2 เป็นเด็กชายอายุ 5 ปี มาที่แผนกฉุกเฉินโดยระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ในระดับ 2.0 จากการกินเจลล้างมืออีกเช่นเดียวกัน
จากการศึกษาข้อมูลโดยรายละเอียดจากศูนย์ป้องกันสารพิษของสหรัฐอเมริกาในปี 2010 พบว่า มีคนโทรศัพท์มาถาม ถึงปัญหาของเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่กินเจลล้างมือโดยไม่ตั้งใจถึง 3,600 ราย และในปี 2013 จำนวนของผู้ที่กลืนเจลล้างมือมีมากถึง 16,000 ราย
สิ่งที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้
เจลล้างมือหลากหลายชนิดถูกผลิตออกมาในรูปของขวดที่น่ารัก และมีสีสันสดใส บางครั้งจะผสมกากเพชรสีระยิบระยับและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน เช่นกลิ่นหมากฝรั่ง กลิ่นมะนาว กลิ่นวานิลลา หรือกลิ่นสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีแอลกอฮอล์ปะปนอยู่ 40 ถึง 95% การได้รับสารเหล่านี้เข้าไปเพียงเล็กน้อยสามารถเป็นพิษกับเด็ก ๆ ได้ เพราะเป็นเหมือนการดื่มเหล้าอย่างแรง 2 ถึง 3 แก้วเล็ก ๆ เลยทีเดียว
คุณพ่อคุณแม่หลายคนและตัวผู้เขียนเองเคยส่งลูกไปโรงเรียนโดยมีเจลล้างมือติดกระเป๋าของลูกไปโรงเรียนด้วย แต่หากท่านผู้ปกครองได้ทราบข้อมูลใหม่ ว่า ท่านกำลังให้ลูกนำเหล้าวอดก้า ซึ่งมีความแรงถึงขนาด 2 เท่า หรือนำเหล้ารัม หรือขวดวิสกี้ ติดไปโรงเรียนด้วย คงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
อาการหลังจากได้รับสารพิษ คือ จะมีปัญหาเรื่องของการพูดติดขัด รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน อาเจียน อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ระดับความดันเลือด และการหายใจจะช้าลง หลังจากได้รับสารพิษระดับน้ำตาลในเลือดของเด็กจะต่ำลงอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การชักและถึงเข้าขั้นโคม่าได้
โดยปกติแล้วเจลล้างมือมักจะเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ผู้ปกครองจัดให้เด็กนำไปโรงเรียน โดยผู้ปกครองหลายท่านไม่ทราบว่าเจลล้างมือนั้น บรรจุแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นประเภทที่สามารถทำอันตรายต่อเด็กเด็กได้ เพราะว่าขวดเจลล้างมือมีขนาดเล็ก และง่ายต่อการพกพา แต่มีสารพิษบรรจุอยู่ภายในทำให้เด็กได้รับอันตรายมากกว่าผู้ใหญ่ถึงหลายสิบเท่า ผู้ปกครอง และคุณครูควรให้ความระมัดระวังกับเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ หากใช้จำเป็นต้องอยู่ในการควบคุมของผู้ใหญ่ ดังนั้น หากท่านผู้ปกครองต้องการนำเจลล้างมือไปโรงเรียนสามารถเลือกใช้ยี่ห้อที่ไม่บรรจุแอลกอฮอล์
ผู้เขียนเห็นว่าเจลล้างมือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และมีโทษในเวลาเดียวกัน จึงควรใช้อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของท่าน เป็นกำลังใจให้แก่ทุกครอบครัวเสมอค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
Webmd.com
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
