ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - เทศกาลลอยกระทงหลายจังหวัดในภาคเหนือเต็มไปด้วยสีสันหลากหลาย ทั้งประกวดหนูน้อยนพมาศ-สาวประเภทสอง ขณะที่วัดวาอารามเชียงใหม่สืบสานประเพณียี่เป็งปล่อยโคมควันขึ้นฟ้า ถวายเป็นพุทธบูชาและสะเดาะเคราะห์ สืบสานวัฒนธรรมล้านนา
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้ พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านชุมชนวัดป่าแดด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ร่วมกันปล่อยโคมควันหลากสีที่ประดิษฐ์ขึ้นเองขึ้นสู่ท้องฟ้า บูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ และเป็นการสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อของล้านนา รวมทั้งสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวล้านนาไว้ให้ลูกหลานได้สืบทอด โดยมีการปล่อยตามช่วงเวลาที่ทางจังหวัดกำหนด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบิน คือระหว่างเวลา 10.00-12.00 น.
พระครูปลัดพยุงศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดป่าแดด เชียงใหม่ บอกว่า เป็นการรักษาประเพณียี่เป็งเอาไว้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มเลือนหาย หากวัดวาอารามไม่ช่วยกันอนุรักษ์หรือรักษาประเพณีเอาไว้ ในอนาคตก็จะสูญหายไปกับกาลเวลา เยาวชนรุ่นใหม่ไม่รู้จักวัฒนธรรมของตนเอง
ลำปางได้ตัว “ธิดาสะเปาแก้ว-สะเปาคำ” แล้ว
ขณะที่งาน “ล่องสะเปาจาวละกอน” หรือยี่เป็งของลำปาง คืนแรก (24 พ.ย.) ที่จังหวัดลำปาง และเทศบาลนครลำปาง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นที่ลานข่วงนคร ห้าแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครลำปาง ได้มีการประกวดธิดาสะเปาแก้ว และสะเปาคำ เพื่อเฟ้นหาสาวงามดำรงตำแหน่ง “ธิดาสะเปาแก้ว และ สะเปาคำ” และระลึกถึง 2 ธิดาของเจ้าเมืองที่ครองนครลำปางในอดีต โดยปีนี้มีสาวงามจากทั่วภาคเหนือเข้าร่วมประกวด 44 คน
ผลการประกวด “ธิดาสะเปาแก้ว” ได้แก่ หมายเลข 1 น.ส.ทักษพร หมายหมั้น หรือ น้องแพตตี้ อายุ 19 ปี นศ.ปี 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับตำแหน่งไปครอง โดยได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมมงกุฎ สายสะพาย และถ้วยรางวัล ขณะที่ “ธิดาสะเปาคำ” ได้แก่ หมายเลข 4 น.ส.สุทธิดา บัวใบ หรือน้องกิ๊ฟ อายุ 19 ปี นศ.ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมมงกุฎ และสายสะพาย ถ้วยรางวัล
ส่วนตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 6 น.ส.รุจิรา คำดี น้องจ๋า, รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ หมายเลข 18 น.ส.นิศารัตน์ แซ่จู น้องแนน, รองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ หมายเลข 33 น.ส.จิตราพรรณ อุประกาศ น้องแก้ม และขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่ หมายเลข 36 น.ส.จิตราพรรณ อุประกาศ น้องใบหยก
สำหรับผู้ได้รับเลือกตำแหน่งธิดาสะเปาแก้ว และสะเปาคำนั้น ทางเทศบาลนครลำปางจะได้ให้นั่งในสะเปาลอยน้ำ ซึ่งเป็นขบวนแห่สะเปาในแม่น้ำวัง ในคืนวันนี้ (25 พ.ย.) และนั่งบนสะเปารถใหญ่ ในขบวนแห่สะเปารถใหญ่ ที่จะมีขบวนแห่ไปตามถนนในตัวเมืองลำปาง ในวันที่ 26 พ.ย.
“กำแพงเพชร” มีประกวดหนูน้อยนพมาศ-สาวประเภทสอง
สำหรับเทศกาลลอยกระทงที่จังหวัดกำแพงเพชรคืนแรก ที่เทศบาลเมืองกำแพงเพชร จัดขึ้นบริเวณถนนริมแม่น้ำปิง ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร ก็เต็มไปด้วยสีสัน ท่ามกลางประชาชนที่นำกระทงมาลอยในแม่น้ำปิงกันอย่างคึกคัก
ขณะที่บริเวณเวทีในลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ได้จัดให้มีการประกวดหนูน้อยนพมาศ มีหน่วยงานห้างร้านและผู้ปกครองส่งหนูน้อยอายุ 5-8 ขวบเข้าประกวดกว่า 20 คน นอกจากนี้ยังมีการประกวด Miss international ซึ่งมีสาวประเภทสองเข้าร่วมประกวด จำนวน 16 คน แต่ละคนจะแต่งกายชุดประจำชาติของแต่ละชาติไม่ซ้ำกัน เดินโชว์ออกมาหน้าเวที ประชันโฉม เพื่อให้คณะกรรมการตัดสินความสวยของชุดประจำชาติ ท่ามกลางผู้ชมและกองเชียร์ที่แห่มาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง สร้างบรรยากาศคึกคักอย่างมาก
สำหรับผู้ที่สนใจเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงธารประทีปของเทศบาลเมืองกำแพงเพชร พร้อมชมขบวนแห่ของสถานศึกษา และ 24 ชุมชนในเขตเทศบาลฯ วันนี้ (25 พ.ย.) เวลา 16.00 น. จะมีพิธีทอดผ้าป่าแถว ณ วัดบาง ในเวลา 18.00 น. และชมประกวดนางนพมาศ/ธิดาชุมชน โดยมีนายธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดงาน ในเวลา 19.30 น. โดยบริเวณริมแม่น้ำปิงมีสถานที่ให้นั่งชมกระทง และกระทงสายที่จะปล่อยลงแม่น้ำกว่า 20,000 กระทง
ผู้ว่าฯ อุทัยธานีเร่งตรวจโป๊ะริมน้ำสะแกกรังรับลอยกระทงคืนนี้
ด้านนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี และเทศบาลเมืองอุทัยธานี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยและความมั่นคงแข็งแรงของโป๊ะริมแม่น้ำสะแกกรัง บริเวณลานสะแกกรังฝั่งตรงข้ามวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามเหมาะสำหรับการจัดงานสืบสานประเพณีลอยกระทงขอขมาแม่พระคงคา
นายประภัสสร์ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันร้านค้าขายดอกไม้ไฟอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะดอกไม้ไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายต้องจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และขอความร่วมมือประชาชน เยาวชนไม่ให้จุดพลุ ดอกไม้ไฟ รวมถึงจุดโคมลอย ในบริเวณที่จัดงาน หรือบริเวณรัศมีใกล้บ้านเรือนประชาชน เพราะอาจจะตกใส่บ้านเรือนทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
รวมถึงการระมัดระวังไม่ให้คนขึ้นไปบนสะพานหรือโป๊ะที่จัดไว้รองรับประชาชนที่มาลอยกระทงที่แม่น้ำสะแกกรังสถานที่จัดงานมากจนเกินไป โดยสั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอาสาสมัครหน่วมกู้ชีพ กู้ภัย จากชมรมมูลนิธิต่างๆ เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ในการรับมือต่อสถาณการณ์ที่อาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้