ศูนย์ข่าวศรีราชา - ร้านทำขนมปังในพื้นที่นครแหลมฉบัง เร่งเพิ่มกำลังผลิตกระทงขนมปังรูปดอกไม้ สีสันสวยงาม หลังได้รับออเดอร์การสั่งจองมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากระทงที่ทำจากขนมปังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะไม่เป็นมลพิษ ย่อยสลายได้ง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจบรรยากาศการทำกระทงภายในเขตเทศบาลนคแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พบว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่ร้านลูกแก้ว เบเกอรี่ เลขที่ 163/83 ม.7 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายขนมปังที่มีชื่อเสียงของชุมชนบ้านอ่าวอุดม ได้มีการทำกระทงขนมปังรูปดอกไม้หลากหลายสีขึ้นมาจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ในราคากระทงละ 20 บาท หรือตามขนาดที่ลูกค้าจะสั่ง โดยเอกลักษณ์ของกระทงขนมปังที่นี่เป็นการแต่งกระทงด้วยการหยอดครีมให้เป็นรูปดอกไม้ ให้มีสีสันสวยงาม
ที่สำคัญครีมที่ใช้ทำรูปดอกไม้ที่อยู่ในกระทงเป็นครีมซึ่งไม่มีส่วนผสมของเนย จะเป็นเพียงไขมันขาวผสมกับน้ำเชื่อมเท่านั้น หรือที่เรียกว่าครีมฝึกนั่นเอง โดยครีมชนิดนี้สัตว์น้ำสามารถกินได้โดยไม่เกิดอันตราย
อีกทั้งแป้งขนมปังที่ใช้จะเป็นชนิดแข็งที่สามารถลอยอยู่ในน้ำได้เป็นเวลานาน และเมื่อจมลงจะสามารถย่อยสลายได้ภายใน 15 นาที ซึ่งแตกต่างจากที่พบวางขายทั่วไปที่ขนมปังจะมีความนิ่ม และเมื่อลอยในน้ำจะอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควรก็จะจมลง โดยความแตกต่างนี้ทำให้ปีนี้มีการสั่งจองจากลูกค้าให้ทำกระทงขนมปังในปีนี้มากกว่า 5,000 ใบแล้ว
ด้าน นางโชติกา พุดลา อายุ 54 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า เนื่องจากเทศกาลลอยกระทงในเขตพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง กำลังจะเริ่มขึ้น ทำให้กระทงที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายขายดี โดยเฉพาะกระทงที่ผลิตจากขนมปัง ส่งผลให้ร้านทำขนมปังขายส่งได้รับออเดอร์มากขึ้น จึงต้องจ้างคนงานเพิ่มเพื่อเร่งกำลังการผลิตกระทงขนมปังแฟนซี ที่ขนาด และรูปลักษณ์แตกต่างกันไป เช่น รูปเต่า ปลา จระเข้ รูปลักษณ์กระทง ดอกไม้ ซึ่งจะมีร้านค้าต่างๆ มารับไปขายต่อ
กระทงดังกล่าวสามารถเป็นอาหารปลาได้ รวมทั้งลดมลพิษ ลดภาวะโลกร้อน และย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งเป็นที่สนใจ และถูกอกถูกใจประชาชน และเด็กๆ เนื่องจากประหยัด สะดวก ราคาไม่แพง ไม่ต้องหาวัสดุมาทำเอง โดยมีราคาขายปลีกตั้งแต่ 20 บาท ไปจนถึงราคา 100 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด และรูปลักษณ์ของกระทง
ในการนี้ ทางเทศบาลนครแหลมฉบัง ยังได้เชิญชวนให้เยาวชน ประชาชนร่วมกันส่งเสริมประเพณีลอยกระทง โดยทำกระทงจากวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ไม่เป็นมลพิษต่อสภาพแวดล้อม เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งเป็นการถ่ายทอดให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้รู้จักการทำกระทงด้วยใบตอง และดอกไม้จากธรรมชาติ