กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ส่งสายลับสืบพฤติกรรมเสี่ย “อ.” พร้อมลูกสมุน เหตุผู้รับเหมาร้องเดินสายจัดฮั้วงบประมาณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ซึ่งจะมีการส่งรายชื่อเครือข่ายกลุ่มนี้ให้แก่กำลัง 3 ฝ่าย พร้อมขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลทันที ระบุข้าราชการคนไหนแตกแถวพัวพันแก๊งฮั้วประมูลต้องถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง ย้ำนโยบายรัฐบาลยุคนี้ต้องโปร่งใสจากการคอร์รัปชัน และต้องไม่มีกลุ่มอิทธิพลฮั้วประมูลในพื้นที่อย่างเด็ดขาด
จากกรณีประชาชน และกลุ่มผู้รับเหมาเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลเครือข่ายเฮีย อ. พร้อมลูกน้องชื่อ อ. และอดีตข้าราชการครูคนหนึ่งชื่อ ว. ที่เดินสายจัดฮั้วประมูลตามหน่วยงานราชการต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ล่าสุด ได้จัดฮั้วประมูลโครงการประกวดราคาจ้างปรับปรุงผิวจราจรแบบแอสฟัลติกคอนกรีต งบประมาณ 2,352,000 บาท ของเทศบาลตำบลลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และยังคงเดินสายจัดฮั้วประมูลการยื่นซองสอบราคาซ่อมแซมเสริมผิวถนนแอสฟัลติกคอนกรีต แยกเขื่อนลำปาว-หนองกาว งบประมาณ 1,288,000 บาท และการสอบราคาจ้างซ่อมแซมถนนลาดยางสายเขื่อนลำปาว-บ้านนาแก หมู่ 6 งบประมาณ 554,000 บาท ของ อบต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
สร้างความหวาดผวาให้แก่ผู้รับเหมา ข้าราชการ และประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวเดินสายจัดฮั้วมานานหลายปีจนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการรับเหมา และเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากกลุ่มมีอิทธิพลดังกล่าวนี้หากไม่ยินยอม
ล่าสุด วันนี้ (22 พ.ย.) นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งนี้ ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งกำลังดู และตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล และ คสช.ที่ต้องการปราบปรามกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นที่มีพฤติกรรมอยู่ในข่าย 16 ข้อหลัก
ส่วนกรณีเครือข่ายอิทธิพลของ “เฮีย อ.” พร้อมลูกน้องชื่อ อ. และอดีตข้าราชการครูคนหนึ่งชื่อ ว. ที่มีผู้ร้องเรียนว่าเดินสายจัดฮั้วประมูลตามหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ นั้น ขณะนี้ได้ส่งรายชื่อ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่กำลัง 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และส่งเจ้าหน้าที่เข้าสืบ และติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดแล้ว พร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบบัญชีรายชื่อกลุ่มผู้มีอิทธิพลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้ามาดูแลในพื้นที่
ทั้งนี้ หากการตรวจสอบพบว่ามีพฤติกรรมจัดฮั้วประมูล กีดกัน ขัดขวางการสอบราคา และเสนอราคามาหลายครั้ง และต่อเนื่องก็จะขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลตามนโยบายปราบปรามอิทธิพล 16 ข้อหลัก และดำเนินการตามขั้นตอนทันที อย่างไรก็ตาม หากมีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็น และพัวพันกับขบวนการดังกล่าวก็จะถูกลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรง และตามกฎหมายด้วย
เนื่องจากนโยบายรัฐบาลในยุคนี้จะต้องโปร่งใสจากการคอร์รัปชัน และจะต้องไม่มีอิทธิพลจัดฮั้วประมูลในพื้นที่อย่างเด็ดขาด