xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงไหม้ร้านรับซื้อของเก่าเมืองเพชร เสียหายกว่า 3 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพชรบุรี - เพลิงกระหน่ำไหม้กลางดึกร้านรับซื้อของเก่า ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ เมืองเพชรบุรี เสียหายกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ได้

เมื่อเวลา 23.00 น. คืนวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ คลองนาค พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านรับซื้อของเก่า ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ หมู่ 13 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงเร่งประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากหน่วยงานพื้นที่ใกล้เคียงร่วมสนับสนุนที่เกิดเหตุ และแจ้งไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้ช่วยตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากหวั่นเกิดอันตราย พร้อมรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนเพชรเกษม และอยู่ติดกับปั๊มน้ำมัน โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง รถดับเพลิงจากของหน่วยงานในพื้นที่รวม 12 คัน ประกอบด้วย เทศบาลเมือง เทศบาลตำบลหัวสะพาน อบต.ไร่ส้ม อบต.ต้นมะม่วง องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี อบต.บ้านหม้อ อบต.โรงเข้ อบต.โพไร่หวาน มทบ.15 และกองพันล่าง ได้ร่วมสนับสนุนเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงที่โหมกระหน่ำลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากมีวัตถุไวไฟทับถมกันอยู่จำนวนมากทั้งพลาสติก กระดาษ และมีถังแก๊สที่โดนไฟไหม้เกิดการระเบิดเสียงดังเป็นระยะแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

จากการสอบถาม นางถนอม อิ่มมาก เจ้าของร้านบอกว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนได้นอนหลับอยู่ในบ้านพักที่อยู่ใกล้กับจุดเพลิงไหม้ และได้ยินเสียงดังอยู่ด้านนอกจึงออกมาดูพบว่า บริเวณจุดเก็บของเก่ามีไฟลุกเป็นทะเลเพลิงหมดแล้ว จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความช่วยเหลือ โดยพื้นที่ทั้งหมดมีอยู่ 5 ไร่ ใช้พื้นที่สำหรับวางของเก่าประมาณ 2 ไร่ ซึ่งขณะนี้ถูกไฟไหม้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงรถเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ซก 6996 กทม.อีก 1 คัน ที่จอดอยู่ และนำออกมาไม่ทันถูกไฟไหม้เสียหายไปด้วย เบื้องต้นประมวลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงที่ลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง และให้อยู่ในวงจำกัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปพื้นที่ข้างเคียงโดยเฉพาะปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ

เบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ ซึ่งต้องรอให้เพลิงสงบ และรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น