พิษณุโลก - เกิดเหตุไฟไหม้บ้านครอบครัวชาววังทองกลางดึก เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานเป็นชั่วโมงสกัด สุดท้ายวอดทั้งหลัง แถมพอตรวจที่เกิดเหตุต้องเศร้าสลดกันทั่วหน้า เจอศพแม่ลูกถูกไฟคลอกกอดกันตายคากองเพลิง ขณะที่ผู้เป็นพ่อหนีตายออกมาก่อนในสภาพไฟไหม้ร่าง 62% พร้อมตะโกนให้คนช่วยลูกเมียตลอดเวลา
วันนี้ (21 พ.ย.) ร.ต.อ.บุญสิงห์ สุทธิ ร้อยเวร สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย ร.ต.อ.บุญญาภาส เพ็งฤกษ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 1) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ภ.จว.พิษณุโลก และนายธงชัย ตรีทิพย์รักษ์ นายอำเภอวังทอง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของนายสมศักดิ์ นิกรฐา อายุ 55 ปี เลขที่ 238 ม.12 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
หลังจากถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลังเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้ให้ภรรยา และลูกสาววัย 15 ปี กอดกันเสียชีวิตคากองเพลิงจนเป็นภาพที่น่าเวทนาต่อผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.20 น.ที่ผ่านมา ซึ่ง ร.ต.อ.บุญสิงห์ รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 238 ม.12 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.วังทอง ผู้บังคับบัญชารับทราบ แล้วจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา รถน้ำของ อบต.หนองพระ จำนวน 1 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง และอยู่ในซอยคับแคบเข้าไปอย่างยากลำบาก ทำให้เป็นอุปสรรคในการควบคุมเพลิง พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านอย่างหนักจนบ้านเกิดเหตุได้รับความเสียหายหมดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 1 ชม. เพลิงจึงสงบลง แต่ยังมีไอความร้อนคุกรุ่นอยู่ และพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ นิกรฐา อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลวังทอง ก่อนส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งนายสมศักดิ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกตามร่างกายประมาณ 62% อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต แพทย์งดเยี่ยมเนื่องจากป้องกันการติดเชื้อ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบในที่เกิดเหตุถึงกับต้องสลดใจ เมื่อพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 2 ราย ซึ่งเป็นภรรยา และลูกสาวของนายสมศักดิ์ นอนกอดกันเสียชีวิตคากองเพลิง ทราบชื่อต่อมา คือ นางสมคิด เคลือบบุญสอน อายุ 40 ปี และ น.ส.กมลภัณฑ์ นิกรฐา อายุ 15 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเจริญผล ต.หนองพระ อ.วังทอง สภาพศพทั้งคู่ถูกเพลิงไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกแทบจำเค้าโครงเดิมไม่ได้
นายสมหมาย มณีธรรม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.12 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาตนสังเกตเห็นแสงไฟจากบ้านที่เกิดเหตุ จึงรีบวิ่งมาดู เป็นจังหวะเดียวกับที่ นายสมศักดิ์ เจ้าของบ้านกำลังวิ่งหนีออกมาจากตัวบ้านในสภาพเนื้อตัวถูกไฟคลอก พร้อมตะโกนบอกตลอดเวลาว่า “ช่วยภรรยากับลูกในบ้านด้วย” ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปแต่ก็ไม่ทันการณ์ เพราะเพลิงได้โหมกระหน่ำไหม้บ้านเสียหายทั้งหมด จึงรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถดับเพลิง
ล่าสุด ญาติได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ไปตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดหนองบัว ม.7 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
ด้าน ร.ต.อ.บุญญาภาส เพ็งฤกษ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 1) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังไม่ชี้ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด เบื้องต้น พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวลักษณะยกพื้นสูง ตีไม้แปะทั่วบ้าน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ถูกเพลิงไหม้ และพบร่องรอยการพ่วงไฟจากบ้านข้างเคียงมาใช้ ลักษณะบ้านมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว คือ ประตูบ้านหน้าบ้าน
จึงคาดว่าระหว่างเกิดเหตุทั้งหมดกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน เมื่อเกิดเพลิงลุกไหม้ลามไปทั่วบ้านอาจสำลักควันไฟจนหมดสติ จนทำให้ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งว่าสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่
