แม่บ้านชาวญี่ปุ่นเปิดคอร์สสร้างสีสันสดใสให้ภรรยา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - แม่บ้านชาวญี่ปุ่น อ.ศรีราชา เปิดคอร์สสร้างสีสันความสดใสให้ภรรยาที่ตามสามีมาทำงานในเมืองไทย มีเสน่ห์น่ารัก ดึงดูดสามีให้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น พร้อมทั้งใช้เวลาหากิจกรรมทำแทนอยู่ในห้อง

อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลิตเติ้ล เจแปน เนื่องจากเป็นเมืองที่ชาวญี่ปุ่นเข้ามามาพักอาศัย และทำงานบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีประมาณ 10,000 คน เนื่องจากเป็นเมืองที่สงบ น่าพักอาศัย และที่สำคัญมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เช่น ร้านอาหารหลากหลายชนิด โรงพยาบาลได้มาตรฐานหลายแห่ง ห้างสรรพสินค้า

จึงกลายเป็นแหล่งพักอาศัยที่สำคัญของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว และทำให้เกิดอาชีพที่เชื่อมโยงกับชาวญี่ปุ่นหลากหลายอาชีพ ซึ่งมีทั้งคนไทย และและชาวญี่ปุ่นด้วยกันเองทำ ซึ่งที่น่าสนใจ คือ การเปิดสอนการดูแลตนเองของภรรยาญี่ปุ่นให้มีชีวิตชีวา

นางยูโกะ โอริโกชิ อาจารย์สอนการดูแลบุคลิกภาพชาวญี่ปุ่น อ.ศรีราชา กล่าวว่า ได้มาเช่าพื้นที่เปิดคอร์สสอนภรรยาชาวญี่ปุ่น ให้มีการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส เหมาะสมต่อบุคลิกหน้าตา เพื่อให้มีเสน่ห์น่ารักเพิ่มมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ภรรยาชาวญี่ปุ่นไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มาก แต่เมื่อมาอยู่เมืองไทยแล้วมีเวลาว่างมาก หลังจากสามีไปทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียนแล้ว แทนที่จะนั่งเหงาอยู่ที่คนที่ห้องพักก็ได้ออกมาเพิ่มสีสันให้แก่ตัวเอง

สำหรับรูปแบบการสอนนั้น จะเน้นในลักษณะของแต่ละบุคคลว่ารูปร่างหน้าตาแบบนี้จะใส่เสื้อผ้าแบบไหน สีอะไร องค์ประกอบ และเครื่องประดับต้องใส่อะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ที่ผ่านคอร์สไปแล้วจะมีลักษณะท่าทางที่เปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ โดยภรรยาชาวญี่ปุ่นที่มาเรียนนั้นเป็นจุดหนึ่งเพื่อดึงดูดให้สามีกลับมาสนใจภรรยา และครอบครัวเพิ่มขึ้น

นางยูโกะ กล่าวว่า ปัจจุบันสามีออกไปทำงานที่บริษัท และส่วนใหญ่จะสังสรรค์กับเพื่อนจนดึกดื่น โดยให้ภรรยาอยู่ที่พักเพียงลำพัง ทำให้มีเวลาว่างมาก จึงต้องเรียนรู้เพิ่มเติมด้านบุคลิกภาพ การแต่งตัว งานด้านแกะสลักผลไม้-สบู่ การออกกำลังกาย ร้องเพลง และเต้นรำ

นอกจากนั้น ยังเป็นการพบปะสังสรรค์พูดคุยของกลุ่มภรรยาชาวญี่ปุ่น และแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน พร้อมให้คำปรึกษา และคำแนะนำในปัญหาชีวิตครอบครัวด้วย

นางยูโกะ กล่าวว่า ตนเปิดมานานเกือบ 2 ปีแล้ว และสอนตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ วันละ 90 นาที โดยจะเรียนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ลูกศิษย์ที่มาเรียนเป็นการบอกปากต่อปาก เนื่องจากเมืองศรีราชามีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก ส่วนค่าใช้จ่ายบริษัทของสามีจะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด

“ที่เปิดสอนไม่ได้สนใจรายได้ แต่ต้องการช่วยเหลือหญิงญี่ปุ่นที่มาอยู่ต่างแดน เนื่องจากมีประสบการณ์ เพราะได้ติดตามสามีมาอยู่เมืองไทยมานาน 18 ปี และมาทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีเจ้านายเป็นคนไทย จึงต้องเรียนรู้ภาษาไทย ต่อมา สามีย้ายมาทำงานในอำเภอศรีราชา จึงลาออกจากงาน และมาอยู่ศรีราชาด้วย จึงมีเวลาว่างจึงนำประสบการณ์ และสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเปิดสอนให้แก่ภรรยาชาวญี่ปุ่น”

นางยูโกะ กล่าวว่า การเปิดสอนเช่นนี้สร้างความพึงพอใจแก่ภรรยาชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะมีสถานที่พบปะพูดคุย ไม่ต้องอยู่แต่เพียงลำพังในที่พัก ทำให้ภรรยาชาวญี่ปุ่นไม่เหงา และมีจิตใจร่าเริงสดใสขึ้น