xs
xsm
sm
md
lg

ร้องรัฐช่วย! โรงสีบุรีรัมย์จำกัดปริมาณซื้อข้าวเปลือก ชี้ไม่มีที่ตากเก็บ-ผู้ส่งออกชะลอซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์- ชาวนาบุรีรัมย์จำเป็นต้องใช้เงินแห่นำข้าวเปลือกที่เกี่ยวสดออกขายคึกคัก ทำให้ได้ราคาต่ำเพราะความชื้นสูง ขณะโรงสีจำกัดปริมาณรับซื้ออ้างอบไม่ทัน ไม่มีที่ตากและเก็บ เกรงข้าวเสียหายขาดทุน อีกทั้งผู้ส่งออกยังชะลอรับซื้อ ทำข้าวค้างสต๊อกระบายไม่ได้ เรียกร้องรัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการโรงสี และชาวนา

วันนี้ (20 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในหลายพื้นที่ เช่น อ.สตึก อ.แคนดง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ แห่นำข้าวเปลือกที่เกี่ยวสดจากนาข้าวไปจำหน่ายยังโรงสีไฟสหพัฒนา โรงสีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ อย่างคึกคักเพื่อนำเงินไปเป็นค่าจ้างเก็บเกี่ยวและใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงชำระหนี้สิน แต่การนำข้าวสดมาขายกลับได้ราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 8-9 บาท เนื่องจากข้าวเกี่ยวสดมีความชื้นสูง ขณะที่ทางโรงสีได้จำกัดปริมาณรับซื้อไม่เกินวันละ 1,000 ตัน โดยอ้างว่าไซโลที่มีอยู่อบข้าวไม่ทัน ประกอบกับไม่มีพื้นที่เก็บและตากข้าว หากรับซื้อข้าวที่เปียกชื้นไว้ปริมาณมากเกรงว่าข้าวจะมีสภาพเหลืองและเสื่อมสภาพทำให้ขาดทุน อีกทั้งข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกช่วงนี้ไม่สามารถระบายออกได้เนื่องจากผู้ค้าส่งออกชะลอการรับซื้อข้าวจากผู้ประกอบการ

กรณีดังกล่าวจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการโรงสี โดยการหาแนวทางระบายข้าวในสต๊อกของผู้ประกอบการ และควรจะซื้อในราคาสูง เพื่อที่ผู้ประกอบการจะได้รับซื้อข้าวจากเกษตรกรได้ในราคาที่สูงขึ้นตามกลไกตลาดด้วยเช่นกัน พร้อมแนะนำให้ชาวนาควรนำผลผลิตข้าวไปตากให้แห้งและเก็บไว้ในยุ้งฉางก่อนแล้วค่อยทยอยนำออกมาขายเมื่อข้าวมีราคาสูงขึ้น

นายศุภสิทธิ์ อึ้งพัฒนากิจ ผู้ประกอบการโรงสีไฟสหพัฒนา อ.สตึก กล่าวว่า ปีนี้ได้มีเกษตรกรนำข้าวเกี่ยวสดมาขายมากกว่าร้อยละ 90 ทำให้ต้องประสบปัญหาไซโลที่มีอบข้าวไม่ทัน ทั้งไม่มีสถานที่เก็บและตากข้าว จึงจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการรับซื้อข้าว เพราะไม่กล้ารับซื้อข้าวของเข้ามาเก็บหรือกักตุนไว้จำนวนมากเนื่องจากเกรงว่าจะประสบปัญหาขาดทุน ประกอบกับปีนี้ผู้ส่งออกข้าวไทยยังชะลอการรับซื้อข้าวจากผู้ประกอบการด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น