ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ -แพนด้า “หลินฮุ่ย” แท้งแล้ว หลังทุกฝ่ายนำข้อมูลพฤติกรรมและภาพอัลตราซาวนด์ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจีนในการประชุมแพนด้าโลกเมื่อสัปดาห์ก่อน คาดมีการดูดกลับตัวอ่อนในมดลูกไปแล้ว แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้
วันนี้ (17 พ.ย. 58) สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ รักษาการผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการติดตามการตั้งท้องของแม่แพนด้า “หลินฮุ่ย”
ทั้งนี้ ระบุว่าจากการที่โครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทยได้ปรึกษากับทางผู้เชี่ยวชาญจีนในการประชุมแพนด้าโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ประเทศจีน ด้วยการนำข้อมูลพฤติกรรมและภาพอัลตราซาวนด์การตั้งท้องล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 58 ที่ผ่านมาให้พิจารณา เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า “หลินฮุ่ย” น่าจะแท้งแล้ว และคาดว่าน่าจะมีการดูดกลับตัวอ่อนไปแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ส่วนแผนการดำเนินการหลังจากนี้ไป ในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 58 จะมีคณะผู้เชี่ยวชาญแพนด้าจากประเทศจีนเดินทางมาตรวจ และให้คำแนะนำการเลี้ยงดูแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่
เบื้องต้นได้รับคำแนะนำว่าควรมีการปรับแผนการเลี้ยงดูด้วยการปรับสภาพแสงและอุณหภูมิในส่วนจัดแสดงและคอกกักที่เป็นที่อยู่ของ “หลินฮุ่ย” ให้มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับศูนย์วิจัยแพนด้าวู่หลง ที่ประเทศจีน ให้มากที่สุด ที่ช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็น ช่วงกลางคืนจะมืดและยาวนานกว่ากลางวัน เพื่อปรับพฤติกรรมและกระตุ้นให้ “หลินฮุ่ย” เป็นสัดในช่วง ก.พ.-เม.ย. ของปีตามธรรมชาติของแพนด้า ซึ่งจะเหมาะสมต่อการผสมพันธุ์มากที่สุด
ทั้งนี้ เตรียมจะเริ่มทำการปรับในเร็วๆ นี้ และหลังจากนั้นในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. 59 ทางจีนจะมีการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูแพนด้ามาประจำอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อคอยให้คำแนะนำการดูแล รวมทั้งจะมีผู้เชี่ยวชาญมาเพิ่มอีกในช่วงเป็นสัดและผสมพันธุ์ด้วย
หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทยกล่าวว่า แม้ว่าการตั้งท้องครั้งนี้ของ “หลินฮุ่ย” อาจจะไม่ประสบความสำเร็จจนให้กำเนิดลูกแพนด้าออกมา อย่างไรก็ตามถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่การทำงานในปีนี้สามารถทำให้ “หลินฮุ่ย” ตั้งท้องได้ และเป็นการตั้งท้องจริง
ส่วนสาเหตุการแท้งนั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุแน่ชัดลงไปได้ ทั้งนี้จะมีการตรวจสุขภาพและอัลตราซาวนด์อีกครั้งในช่วงเดือน ธ.ค. 58 แต่มีการวิเคราะห์ว่าปัจจัยส่วนหนึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเนื่องมาจากการที่ “หลินฮุ่ย” เป็นสัดและได้รับการผสมพันธุ์ในช่วงเดือน มิ.ย. ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาตามธรรมชาติของหมีแพนด้า รวมทั้งเป็นช่วงที่น้ำเชื้อของแพนด้าตัวผู้และไข่ที่ตกของตัวเมียอาจจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด
หลังจากนี้เตรียมที่จะทำการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู ตามข้อแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจีน และตั้งความหวังว่า “หลินฮุ่ย” จะเป็นสัดและพร้อมผสมพันธุ์ได้อีกครั้งในช่วง ก.พ.-เม.ย. 59 ที่จะถึงนี้