ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เผยในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบ “หลินฮุ่ย” มีพฤติกรรมเลียอวัยวะเพศเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ที่เฝ้าติดตามมา อย่างไรก็ตาม ระดับฮอร์โมนยังไม่ลดลงถึงระดับต่ำสุด รวมทั้งยังไม่พบพฤติกรรมการเบ่ง และสารคัดหลั่ง ต้องจับตาใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงต่อไป เพราะสามารถตกลูกได้ทุกเมื่อ
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย พร้อมด้วย นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมกันเปิดเผยความคืบหน้าการตั้งท้องของแม่หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ซึ่งวันนี้ตั้งท้องเป็นวันที่ 120 นับตั้งแต่วันที่ได้รับการผสมเทียม
โดยหัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 17 ต.ค.58 พบว่า “หลินฮุ่ย” เริ่มมีการแสดงพฤติกรรมเลียอวัยวะเพศให้เห็นนาน 9-10 นาที และมียังมีการเลียอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงกลางดึกรวม 5-6 ครั้ง ซึ่งเป็นการแสดงพฤติกรรมการเลียให้เห็นอย่างเข้มข้นที่สุดนับตั้งแต่ที่ได้เฝ้าติดตามมา อย่างไรก็ตาม จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไม่ปรากฏว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่ตลอดทั้งวันของวันที่ 18 ต.ค. พบว่า มีการเลียอวัยวะเพศให้เห็นอยู่ แต่ไม่เข้มข้นเท่าวันก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ควบคุมการตั้งท้องนั้น เท่าที่สามารถตรวจวัดได้พบว่า อยู่ในช่วงขาลง แต่ยังไม่ถึงระดับต่ำสุด ส่วนพฤติกรรมอื่นๆ ที่มีการแสดงออกมีทั้งการเลียมือเลียเท้า และเลียเต้านม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นร่างกายให้พร้อมสำหรับการตกลูก แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า “หลินฮุ่ย” จะตกลูกเมื่อใด ซึ่งนับจากนี้มีความเป็นไปได้ทุกเมื่อ จึงทำได้แต่เพียงการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าทางทีมงานมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการดูแลทั้งแม่ และลูกที่จะออกมา
นอกจากนี้ นายสัตวแพทย์ดร.บริพัตร ระบุว่า สิ่งที่ทางทีมงานพยายามเฝ้าสังเกตอยู่ก็คือ พฤติกรรมการเบ่งคลอดของ “หลินฮุ่ย” และสารคัดหลั่งโดยเฉพาะถุงน้ำคร่ำว่ามีการแตกหรือยัง เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงขั้นตอนสุดก่อนที่จะมีการตกลูกแล้ว อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ยังไม่พบพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าการให้ “หลินฮุ่ย” อยู่แต่เฉพาะในคอกกักไม่เป็นการสร้างความเครียดให้แก่ “หลินฮุ่ย” โดยยังคงใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขดี และกินนอนได้เป็นปกติ
สำหรับการดูแลลูกหมีแพนด้าในกรณีที่เกิดออกมาแล้วนั้น นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร บอกว่า ขณะนี้กำลังมีการหารือพิจารณาร่วมกันในการจะใช้ตุ๊กตาลูกหมีแพนด้าที่ป้ายด้วยอุจารระของลูกหมีแพนด้า แล้วนำไปสับเปลี่ยนกับลูกหมีแพนด้าตัวจริงเพื่อนำไปป้อนนม และตรวจสุขภาพ โดยที่แม่หมีแพนด้าไม่รู้สึกว่าโดนแยกลูก ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทางจีนใช้อยู่ อย่างไรก็ตาม จะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
