xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เหลือคราบนักสู้! แห่ช่วย “นำพล” ยอดขุนเข่ามวยไทยชาวบุรีรัมย์ ป่วยวัณโรคซูบผอม(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายนำพล ศรีจันทึกหรือ “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” อายุ 46 ปี อดีตนักมวยไทยชื่อดัง ฉายา “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” ป่วยวัณโรคปอดมากว่า 3 ปี ใช้ชีวิตอยู่ลำพังที่บ้านเกิด ร่างกายซูบผอมหนังหุ้มกระดูกจนไม่เหลือคราบนักสู้บนสังเวียน วันนี้ ( 17 พ.ย.)
บุรีรัมย์ - “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” ฉายา “ขุนเข่าหน้าเปื่อย” อดีตยอดมวยไทยดีกรีนักชก 2 แชมป์ชาวบุรีรัมย์ ป่วยหนักเป็น “วัณโรคปอด” นานกว่า 3 ปีหลังเลิกรากับภรรยามาใช้ชีวิตอยู่ลำพังที่บ้านเกิด ปัจจุบันร่างกายซูบผอมมีเพียงหนังหุ้มกระดูกจนไม่หลงเหลือคราบนักสู้บนสังเวียน เจ้าตัวยอมรับรักษาไม่ต่อเนื่องทำให้อาการทรุด



วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยงยุทธ จรเสมอ นายอำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นพ.บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่, นายประพันธ์ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ และเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ นายนำพล ศรีจันทึก หรือ “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” อายุ 46 ปี อดีตนักมวยไทยชื่อดัง ฉายา ‘ขุนเข่าหน้าเปื่อย’ ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดบุรีรัมย์ และประเทศชาติ มีดีกรีเป็นนักชก 2 แชมป์ “รุ่นไลต์ฟลายเวต และเฟเทอร์เวต” หลังทราบข่าวว่านายนำพลล้มป่วยด้วยโรค “วัณโรคปอด” มาตั้งแต่ปี 2556

โดยปัจจุบันได้ใช้ชีวิตอยู่ลำพังที่บ้านเกิดในบ้านชั้นเดียว เลขที่ 37 ม.8 บ้านพัฒนาชน ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีที่นาล้อมรอบเนื้อที่กว่า 70 ไร่ หลังเลิกรากับภรรยา ซึ่งเมื่อเห็นสภาพร่างกายของนายนำพลถึงกับตกใจ เพราะมีร่างกายที่ซูบผอมมากเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก จนไม่หลงเหลือคราบความเป็นนักสู้บนสังเวียน หากเปรียบเทียบกับรูปถ่ายเมื่อครั้งที่เป็นนักมวย

นายนำพลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไม่มีเรี่ยวแรงว่า ตนได้ล้มป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อ หรือวัณโรคปอด ตั้งแต่ปี 2556 ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ระยะหลังขาดการรักษาและไม่ได้กินยาต่อเนื่อง จึงทำให้อาการทรุดหนักและร่างกายซูบผอมอย่างที่เห็น แต่ยังพอเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติและยังช่วยเหลือตัวเองได้ แต่อาจนั่งหรือยืนเป็นเวลานานๆ ไม่ได้จะเกิดอาการเหนื่อย

เมื่อเห็นทางอำเภอ และเทศบาลฯ มาเยี่ยมก็มีกำลังใจมากขึ้น พร้อมรับปากว่าหลังจากนี้จะเข้ารับการรักษาและกินยาให้ต่อเนื่องตามที่หมอสั่ง

พร้อมยังระบุด้วยว่า หากหายจากอาการป่วยและสภาพร่างกายฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติแล้วจะกลับไปเป็นครูฝึกสอนมวยให้เด็ก เยาวชน ที่ค่าย “หนองกี่พาหุยุทธ” ที่เคยปลุกปั้นตัวเองจนเป็นนักชกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาแล้ว เพราะอยากให้เด็ก เยาวชน ได้ใช้เวลาว่างหันมาออกกำลังกาย ทั้งจะได้สืบทอดศิลปะแม่ไม้มวยไทยต่อไปด้วย

นำพลยังกล่าวทิ้งท้ายถึงแฟนมวย และคนที่รู้จักคุ้นเคยด้วยว่า ไม่ต้องเป็นห่วง และขอบคุณทุกกำลังใจทั้งที่มาเยี่ยมด้วยตัวเอง และที่ส่งกำลังใจผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ

ด้าน นายยงยุทธ จรเสมอ นายอำเภอหนองกี่ กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่านายนำพลล้มป่วยทางอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือดูแลด้านรักษาอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง แต่ที่อาการทรุดหนักลงเนื่องจากนายนำพลขาดการกินยาที่ต่อเนื่อง ทั้งไม่ได้ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองเท่าที่ควร ดังนั้นตัวนายนำพล ต้องให้ความร่วมมือในการดูแลรักษาตัวเองด้วยเพื่อให้หายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่

“นายนำพลถือเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดบุรีรัมย์และประเทศ ทั้งยังเป็นบุคคลตัวอย่างแก่เด็ก เยาวชน รุ่นใหม่อีกด้วย” นายยงยุทธกล่าว

ทางด้าน นพ.บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางโรงพยาบาลจะได้ทำการรักษาอย่างจริงจัง โดยจะส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลมาดูแลเรื่องการรับประทานยาให้สม่ำเสมอ พร้อมทั้งดูแลเรื่องอาหารการกิน เพราะโรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ผู้ป่วยต้องให้ความร่วมมือในการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าหากทำการรักษาต่อเนื่อง กินยาสม่ำเสมอ และปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่ง คาดว่าประมาณ 4-5 เดือนสภาพร่างกายจะกลับมาฟื้นตัวและหายเป็นปกติได้

สำหรับประวัตินายนำพล หรือ “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” หรือฉายา ‘ขุนเข่าหน้าเปื่อย’ เคยโด่งดังไล่ๆ กันกับ ‘สามารถ พยัคฆ์อรุณ’ มีดีกรีเป็นแชมป์ในรุ่นไลต์ฟลายเวต และเฟเทอร์เวต ของเวทีลุมพินี กระทั่งเมื่อปี 2534 นำพลเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ ได้รับบาดเจ็บถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้จึงต้องแขวนนวมไปโดยปริยาย หลังแขวนนวม นำพลได้เปิดกิจการร้านหมูกระทะชื่อ “นำพล หมูย่างเกาหลี” ในตัวเมือง จ.นครราชสีมา ต่อมากิจการร้านหมูกระทะก็ประสบปัญหา ทั้งครอบครัวแตกแยก

หลังจากนั้นไม่ได้ข่าวนำพลเป็นเวลานานหลายปี ล่าสุดได้มีผู้โพส์ตลงเฟซบุ๊กว่า นำพลล้มป่วยนอนพักรักษาตัวที่บ้านเกิด โดยมีร่างกายซูบผอมจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกอย่างที่เห็น







กำลังโหลดความคิดเห็น