ศูนย์ข่าวศรีราชา - ดรามาปูเน่าเรื่องเศร้าอ่างศิลา! กระหึ่มโซเชียล ลูกค้าโวยแม่ค้าตลาดสะพานปลาอ่างศิลานำปูเน่ามาขายก่อนโพสต์แชร์กระฉ่อนโลกออนไลน์จนชาวเน็ตวิจารณ์ขรม แม่ค้าปูทราบเรื่องรุดแจ้งความทำเสียชื่อเสียง พร้อมสวนกลับทันควัน “มาเคลียร์กันเลยดีกว่า” เผยยืนยันรับคืนหากสินค้าไม่ดีจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานกระแสสังคมออนไลน์ในขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลายทรรศนะในกรณีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Fendy Ganyapak ได้โพสต์ภาพแม่ค้ารายหนึ่งผ่านทางหน้าวอลของตนเอง และผ่านกลุ่มสาธารณะ ชลบุรี Thailand ที่มีสมาชิกกว่า 3 หมื่นราย
พร้อมระบุว่า “เตือนภัย ตลาดสะพานปลา อ่างศิลา เรื่องก็มีอยู่ว่า น้องสาวไปซื้อปูกับแม่ค้าคนนี้ ปูราคากิโลละ 480 บาท เพราะเป็นปูขนาดใหญ่ น้องสาวก็เลือกปูไปทั้งหมดเป็นเงิน 700 กว่าบาท ก็ประมาณ 5-6 ตัว แม่ค้าก็ชักชวนให้นึ่งปูโดยมีค่าบริการไป 40 บาท แม่ค้าก็บอกว่าน้องไปซื้ออะไรก่อนก็ได้เพราะนึ่งปูใช้เวลาประมาณ 20 นาที น้องก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะรอได้ แต่แม่ค้าค้าก็ยังย้ำว่าให้ไปซื้ออย่างอื่นก่อนก็ได้ไม่ต้องยืนรอให้เสียเวลา ตกลงน้องเลยไปซื้อกับข้าวอย่างอื่นเสร็จพอกลับมารับปูก็ขับรถกลับถึงบ้าน ตั้งใจจะกินปูกับครอบครัวให้อิ่ม! เปิดถุงมาตกใจมากปูตัวเล็กนิดเดียวแถมมีกลิ่นด้วยไม่เหมือนตอนที่เลือกซื้อปูยังเป็นๆ และตัวใหญ่มากด้วย! สรุปว่าแม่ค้าคนนี้สลับปูตอนที่น้องไปซื้อกับข้าวนั่นเอง! ไร้คุณธรรมสิ้นดี!
พอวันนี้ไปต่อว่าแม่ค้าแต่แม่ค้าคนนี้บอกว่าไม่รู้จัก และพูดจาหยาบคายมากๆ เลย อยากเตือนเพื่อนๆ ด้วยว่าอย่าไว้ใจแม่ค้า! น้องก็ไปสอบถามประวัติแม่ค้าคนนี้แถวนั้นดูก็ทราบมาว่า มีคนโดนกันเยอะแล้วถึงขนาดมีคนเอาปูเน่ามาขว้างหน้าร้านคืนก็มี! แม่ค้าคนนี้ไปรับปูตายแช่แข็งจากทางใต้มาสลับกับปูเป็นค่ะ ฝากแชร์ด้วยนะคะไม่อยากให้ใครต้องมาเสียเงินฟรีๆ เหมือนกับน้องค่ะ”
หลังจากนั้น มีชาวเน็ต และผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากต่างพากันแชร์ข้อมูลดังกล่าว พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวไปต่างๆ นานา จนล่าสุด สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pumpui Wattanakero ซึ่งเชื่อว่าเป็นแม่ค้าที่ถูกกล่าวอ้างซึ่งปรากฏภาพในโพสต์ดังกล่าว ได้ออกมาโต้แย้งอย่างทันควันว่า
“ขอชี้แจงรายละเอียดมีลูกค้าร้านใครก้อไม่รู้ มาโมเมว่าซื้อที่ร้าน หน้ายังไม่เคยเห็นเลย เมื่อวันนี้บอกปูโลละ 450 แต่มาลงบอกโลละ 480 บอกปูซื้อไปนึ่งกลับไปขาหลุด มันจะไม่หลุดได้ไงถ้าเป็นปูเป็น แล้วก้อมาขึ้นมึงกูก่อน หยาบคายสารพัด พูดแบบไม่มีหลักฐาน ถ้ามันเป็นจริงแล้วทำไมไม่เอามาเปลี่ยน จนเป็นเวลาสองอาทิตย์แล้ว ถ้าเป็นอย่างที่คุณกล่าวหาดิชั้นคงไม่ยืนหยัดจนทุกวันนี้หรอกค่ะ ใช้วิจารณญาณกันเองละกันค่ะ
ขายมาเป็นเวลาหลายปีไม่เคยมีใครมาว่า แล้วก้อเป็นคนตรงๆ ด้วย ไม่รู้ใครจ้างมารึป่าว ขนาดลูกค้าที่ยืนรอของยังบอกให้ฟ้องกลับเลยหลักฐานก้อไม่มี ทำแบบนี้หมิ่นประมาท สร้างความเดือดร้อน และเสื่อมเสียให้คนอื่น เตรียมตัวได้เลยค่ะ ถ้าไม่หยาบคายก่อนใครเค้าจะหยาบกลับ พูดแต่ละอย่างไม่จิงซักเรื่อง”
ต่อมา เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Pumpui Wattanakero ได้โพสต์ภาพใบบันทึกแจ้งความไว้เป็นหลักฐานในนาม นางปภาวรินทร์ วัฒนะเกโร อายุ 36 ปี เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยมองว่าเป็นการหมิ่นประมาท และทำให้เสียชื่อเสียงทั้งที่ตนเองเป็นแม่ค้ามานาน และมีลูกค้ามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะพอใจต่อสินค้าทะเลที่จำหน่าย ทำงานตรงนี้มานานไม่เคยเอารัดเอาเปรียบลูกค้า เรื่องการโพสต์เตือนภัยดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายให้ตนเองเป็นอย่างมากจึงต้องออกมาปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง ก่อนระบุข้อความว่า
“มาเคลียร์กันเลยดีกว่า เพราะคุณอาจจะเกิดจากการเข้าใจผิด เข้าใจไม่ตรงกัน fendy kanyapak” จากนั้นได้โพสต์ภาพลูกค้าที่ส่งมาให้กำลังใจสู่สังคมออนไลน์ได้รับรู้พร้อมทั้งขอว่าอย่าฟังความข้างเดียว นอกจากนี้ ยังโพสต์หมายเลขโทรศัพท์เพื่อให้คนที่ข้องใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถโทรศัพท์สอบถามได้โดยตรงอีกด้วย
หลังจากผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่ให้ไว้ ปลายสายระบุว่า ชื่อ นางปภาวรินทร์ วัฒนะเกโร ตนเองคือแม่ค้าที่ปรากฏอยู่ในภาพ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า การโพสต์ข้อมูลเรื่องปูเน่า โดนอ้างว่าซื้อปูมาจากที่ร้านของตนเองนั้น ในเรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้ตนเองเป็นอย่างมาก
ซึ่งข้อเท็จจริง มีคนมายืนอยู่ที่หน้าร้านตนเองประมาณ 15 นาที แล้วก็แอบถ่ายรูปไป ซึ่งตนเองเป็นคนพูดจาตรงๆ จะบอกลูกค้าทุกครั้งที่มาซื้อของเราว่ามีทั้งปูเป็น และปูน็อก ราคาจะต่างกันเล็กน้อย และความหวานขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะต้องการแบบไหน และทางเราก็ยินดีที่จะรับคืนหากพบกว่าปูที่ซื้อไปเน่าจริงภายใน 1-2 วัน หากเอาปูมายืนยันว่าได้ซื้อมาจากร้านเราจริงๆ แต่รายนี้อ้างว่าซื้อไป 2 อาทิตย์แล้วลูกค้าเพิ่งจะมาบอกว่าปูเราเน่า ซึ่งถือว่ามีเจตนาไม่ดีกับเรา ทำให้เราเสียชื่อเสียงอย่างมาก จึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.แสนสุข
ความสะใจบนโลกออนไลน์ “เหรียญสองด้านและดาบสองคม” หน้าฉากแห่งการแสดงออกที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย