ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้าน พร้อมผู้นำชุมชนตำบลบางเตย เมืองแปดริ้ว วอนการรถไฟแห่งประเทศไทยช่วยเพิ่มเครื่องกั้น หรือสัญญาณเสียงเตือนช่วยบอกคนข้ามถนนขณะขบวนรถผ่านบริเวณจุดตัดทางรถไฟ หลังมีผู้ประสบอุบัติเหตุถูกรถไฟชนบ่อยครั้ง เผยสร้างรางคู่บวกหนึ่งมา 3 ปี เกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นถึง 4 ครั้ง มีทั้งเจ็บ และตาย
วันนี้ (12 พ.ย.) นายณรงค์ โล่รักษา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.11 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงปัญหาอุบัติเหตุรถไฟชนคนที่เกิดขึ้นต่อชาวบ้าน และผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาบนถนนสายบางเตยพัฒนา ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสายทางหลวงชนบท 3001 ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช กับถนนสาย 304 สุวินทวงศ์ (มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา) ว่า หลังจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการขยายเส้นทางจากเดิมที่มีเส้นทางการเดินรถเพียงรางเดียว มาเป็น 3 เส้นทางการเดินรถ ผ่านพื้นที่หลายหมู่บ้านใน ต.บางเตย และมีจุดตัดทางข้ามทางรถไฟในพื้นที่หลายแห่ง
ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อชาวบ้านที่ถูกรถไฟชนหลายครั้งแล้ว อย่างเช่นรายล่าสุด เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) กรณีที่ขบวนรถไฟพุ่งชนกับรถยนต์ของชาวบ้านขณะกำลังจะขับข้ามทางรถไฟ บริเวณจุดตัดบนถนนเชื่อมต่อ ระหว่าง ม.4 และ ม.6 นั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากมาอย่างต่อเนื่อง จากเหตุที่เมื่อทางรถไฟมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่าตัวแล้วนั้น ได้ทำให้เกิดมุมอับจนชาวบ้านที่จะข้ามทางรถไฟมองไม่เห็นรถไฟที่กำลังจะมาในแต่ละราง จึงอยากจะร้องขอผ่านไปยังทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า
ขอให้ช่วยหาทางแก้ไขนำสัญญาณไฟ และเสียงเตือน หรือแผงกั้นมาติดตั้งไว้เพื่อเตือนให้ชาวบ้านได้รับรู้ในขณะที่รถไฟกำลังจะผ่านมาด้วย เพื่อไม่ให้มีใครถูกรถไฟชนเจ็บตายอีก เนื่องจากตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมานั้น หลังได้มีการขยายเส้นทางเป็นรถไฟรางคู่บวกหนึ่ง หรือ 3 รางแล้วนั้น ได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อชาวบ้าน และคนขับรถข้ามไปมาบ่อยครั้ง
โดยมีเหตุรุนแรงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเกิดขึ้นต่อชาวบ้านในพื้นที่มาแล้วถึง 4 ครั้งในจุดนี้ จึงอยากให้ทางการรถไฟฯ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้แก่ชาวบ้านดังกล่าวด้วย
ด้าน นายวิฑูรย์ ยังให้ผล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.11 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้าน และคนในตำบลบางเตยหลายหมู่บ้านอยากได้ คือ ขอให้ทางการรถไฟฯ ช่วยนำสัญญาณไฟเตือน หรือสัญญาณเสียงเตือนมาติดตั้งให้เป็นแบบอัตโนมัติ เพื่อเตือนว่าเมื่อมีรถไฟกำลังจะเคลื่อนขบวนผ่านมาในระยะใกล้จะถึงบริเวณจุดตัดแล้ว ให้มีเสียงหรือสัญญาณไฟวับวาบเตือนดังขึ้น ชาวบ้าน หรือคนข้ามไปมาจะได้รู้ว่ากำลังจะมีรถไฟผ่านมา ก็จะได้ทำการหยุดรถรอ
ทั้งนี้ เนื่องจากหลังจากได้มีการขยายเส้นทางการเดินรถมาเป็น 3 รางแล้ว ทำให้มีขบวนรถไฟวิ่งผ่านพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทั้งรถไฟโดยสาร และขบวนรถบรรทุกสินค้า ในหนึ่งวันมีไม่น้อยกว่า 40 ขบวน โดยบางคันก็ไม่ได้เปิดไฟหน้าขณะกำลังจะขับผ่านบริเวณจุดตัดทางข้าม ทำให้ชาวบ้านที่จะข้ามทางมองไม่เห็นขบวนรถ จึงถูกขบวนรถไฟพุ่งชนบ่อยครั้ง หรือหากทำให้มีระบบแผงกั้นทางเมื่อรถไฟกำลังจะผ่านมาได้นั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดีมากที่สุด เพราะจะทำให้ชาวบ้าน และคนสัญจรผ่านไปมาปลอดภัยมากยิ่งขึ้น