บุรีรัมย์ - ชาวบ้านอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้รับผลกระทบบ้านทรุดร้าวจากการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมปี 57 จำนวน 4 ราย บุกเข้าทวงถามศูนย์ดำรงธรรม หลังบริษัทที่ได้รับสัมปทานเลื่อนการเจรจาชดเชยค่าเสียหายกรณีบ้านทรุดร้าวกะทันหันโดยไม่ทราบเหตุผล ซ้ำหน่วยงานรัฐประเมินค่าเสียหายสุดต่ำแค่หลักพันบาท พร้อมยืนยันเรียกร้องความเป็นธรรมถึงที่สุด
วันนี้ (12 พ.ย.) ชาวบ้านบ้านกระทุ่ม ต.ร่อนทอง และบ้านดอนมนต์ ต.ดอนมนต์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จำนวน 4 รายที่ได้รับผลกระทบบ้านเรือนทรุดร้าวจากแรงจุดระเบิดในการสำรวจคลื่นไหวแบบ 3 มิติ ในโครงการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลงสำรวจที่ L31/50 เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ได้เข้าทวงถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสตึก หลังไม่พอใจที่ทางบริษัท ย่านฉาง ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมบนบก แปลง L31/50 ได้เลื่อนการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อตกลงชดเชยค่าเสียหายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
โดยไม่ทราบเหตุผลและไม่มีกำหนดวันเวลาชัดเจนว่าจะเจรจาไกล่เกลี่ยอีกวันไหนเพียงอ้างกับทางคณะกรรมการไกล่เกลี่ยว่าไม่พร้อมในการเจรจา ทำให้ชาวบ้านผู้เสียหาย 4 ใน 8 รายที่ถูกนัดมาเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2558 ที่เดินทางมารอไม่พอใจ จึงได้พากันเข้ามาทวงถามเหตุผลที่แท้จริง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมและคณะกรรมการไกล่เกลี่ยชี้แจงว่า หากคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่พร้อมหรือมีเหตุจำเป็นสามารถขอเลื่อนการเจรจาได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย จากนั้นก็จะทำการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยใหม่อีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ด้าน นางสุรารักษ์ เป้าเงิน หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ทางตัวแทนบริษัทเลื่อนการเจรจาไกล่เกลี่ยกะหันทันโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งยังไม่กำหนดวันชัดเจนว่าจะนัดไกล่เกลี่ยอีกวันไหน ปล่อยให้ชาวบ้านมานั่งรอ เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมา โดยที่ไม่รู้ว่าบริษัทจะชดเชยเยียวยาค่าเสียหายให้ตามที่เรียกร้องหรือไม่
และอยากฝากถามทางเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดด้วยว่าราคาที่ประเมินค่าเสียหายบ้านทรุดร้าวจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านของตนอยู่ซึ่งประเมินให้เพียง 4,500 บาท รวมถึงชาวบ้านอีก 7 รายก็ประเมินอยู่ที่หลักพันบาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำไม่เพียงพอซ่อมแซมบ้านที่เสียหายได้ จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมและความเห็นใจทั้งจากทางบริษัทและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้วย
ขณะที่ นายไพรัตน์ ฤกษ์บุพผา ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอีกราย บอกตรงกันว่า เสียความรู้สึกและไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ทางบริษัทเลื่อนการเจรจากะทันหันเหมือนกับไม่เห็นความสำคัญและไม่เห็นใจชาวบ้านที่มารอ พร้อมระบุว่าหากไม่มีการเจรจาหรือไม่ได้ค่าเยียวยาตามความเหมาะสมก็จะเดินหน้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมจนถึงที่สุดต่อไป