เพชรบูรณ์ - เจ้าหน้าที่เริ่มเดินเครื่องจัดระเบียบสางปัญหา “ภูทับเบิก” ตามแอ็กชันแพลน 3-8-8 ลุยคัดกรองม้งท้องถิ่น ก่อนจัดโซนร้านค้า ท่องเที่ยว อนุรักษ์ ด้านป่าไม้เผยจนถึงขณะนี้ศาลตัดสิน 19 รีสอร์ตพร้อมบริวารออกจากพื้นที่แล้ว
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมป่าไม้ กรมพัฒนาสังคมฯ และจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำข้อตกลงร่วมกันจัดระเบียบภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบรณ์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ตามแอ็กชันแพลน 3-8-8 พร้อมกำหนดโรดแมปการทำงานของ 3 หน่วยงานหลักแล้ว
ล่าสุด นางนิภารัตน์ ประพฤติ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการลงพื้นที่สำรวจคัดกรองชาวเขาตามโรดแมปที่วางไว้ว่า ในส่วนของศูนย์ฯเพชรบูรณ์ ได้ดำเนินการล่วงหน้าไปบ้างแล้ว โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ทางศูนย์ฯ ร่วมกับคณะกองประชาสัมพันธ์จากส่วนกลางเข้าพื้นที่เพื่อคัดกรองชาวเขา โดยใช้แบบสำรวจได้จำนวนราว 339 คน
“ในภูทับเบิก 2 หมู่บ้านทั้งหมู่ 14 และ 16 ซึ่งมีประชากรชาวเขา จำนวน 720 ครัวเรือน 3,008 คน คาดว่าภายใน 10 วัน จะคัดกรองแล้วเสร็จ”
นางนิภารัตน์ กล่าวอีกว่า หลังเสร็จสิ้นการคัดกรองแล้วก็จะออกแบบผังการใช้ที่ดิน ซึ่งทาง พม.จะร่วมกับโยธาธิการและผังเมือง โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นส่วนของร้านค้า การท่องเที่ยว หรือส่วนไหนจะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หรือแหล่งศึกษาเรียนรู้ในเรื่องอัตลักษณ์วิถีของชนเผ่า ส่วนการสำรวจภาพผังของที่ดิน 4.7 หมื่นไร่ ก็จะดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน เพราะขณะนี้ได้รับการสนับสนุนช่างรังวัดของกรมฯ จำนวน 10 คน
“นอกจากนี้ คณะทำงานศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาภูทับเบิก โดยมีรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯจะลงพื้นที่ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ พร้อมจะมีการระดมกำลังคน และยานพาหนะมาช่วยสนับสนุน โดยล่ามชาวเขาทางศูนย์พัฒนาชาวเขา 16 จังหวัดฯ ก็จะมาสนับสนุนเช่นกัน” นางนิภารัตน์ กล่าว
ด้านนายชิต อินทรนก หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้ จ.เพชรบูรณ์ ได้รายงานความคืบหน้าต่อ ศปป.4 กอ.รมน.ระหว่างร่วมประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกว่า สำหรับคดีที่ถึงที่สุดแล้วโดยศาลได้ออกหนังสือรับรองมีจำนวน 20 คดี โดยในจำนวนนี้ อัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 คดี และศาลพิพากษาลงโทษ 19 คดี โดยโทษที่ศาลตัดสินนั้นมีทั้งสั่งจำคุก และสั่งปรับ แต่ทุกคดีศาลสั่งให้จำเลยพร้อมบริวารออกจากป่าที่เกิดเหตุ
“ส่วนคดีซึ่งอยู่ระหว่างอุทธรณ์มีจำนวน 5 คดี และอยู่ในชั้นอัยการพิจารณาอีก 3 คดี รวมทั้งอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนอีก 5 คดี ซึ่งในการบังคับคดีนั้นทางอัยการแนะนำให้หาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อสร้างน้ำหนักว่าจำเลยแต่ละรายไม่ปฎิบัติตามคำพิพากษาอย่างไร” นายชิต กล่าว
พ.ต.อ.โสภณ เพียรร่มทองไทย รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกป่านั้น ทางตำรวจได้พยายามเร่งรัดคดีที่เหลืออยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่จำนวน 5 คดี รวมทั้งที่อาจจะมีการจับกุมต่อไปอีกก็จะได้เร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
สำหรับรีสอร์ตที่มีการยื่นบังคับคดี จำนวน 19 แห่ง ได้แก่ 1.โรงเตี๊ยม 2.ไร่เติมรัก 3.ช้างทอง 4.ริมธารรีสอร์ต 5.ภูทองคำ 6.บ้านตายาย 7.บุญเลิศรีสอร์ต 8.ภูกำนันกาย 9.บ้านพักสายหมอกและรีสอร์ตไม่มีชื่ออีก 10 แห่ง ส่วนรีสอร์ตที่ยื่นอุทธรณ์มี 5 แห่ง ได้แก่ สมบุญรีสอร์ต อิงฟ้า ทับเบิกวิลเลจ เอนกาย@ทับเบิก และรีสอร์ตไม่มีชื่ออีก 1 แห่ง
