เพชรบูรณ์ - กลุ่มนายทุนบนภูทับเบิกดิ้นหนัก ดึงม้งท้องถิ่นเป็นแนวร่วมต้านรัฐรื้อถอนรีสอร์ต แถมมีโพสต์เฟซฯ หมายหัว 2 นักข่าวเข้าพื้นที่เมื่อไหร่อาจมีปาขี้จนต้องโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่รองผู้ว่าฯ ย้ำชัดไม่แตะชาวบ้าน แต่จัดการนายทุนแน่ ชี้คุยกันไม่ได้แล้ว ทั้งที่โดนจับยังสร้างกันโครมๆ บอกคงไม่รื้ออย่างเดียว ต้องเรียกค่าเสียหายด้วย
วันนี้ (20 ต.ค.) นายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวกลุ่มนายทุนรีสอร์ตภูทับเบิกบางรายที่อยู่ในข่ายสูญเสียผลประโยชน์ และถูกกรมป่าไม้เพ่งเล็งจ้องรื้อทิ้งรีสอร์ตที่ถูกศาลตัดสินแล้ว เริ่มออกมาเคลื่อนไหวปลุกปั่นชาวบ้านในพื้นที่เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับเจ้าหน้าที่ ว่า ได้กำชับให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และทหารทำความเข้าใจว่าในส่วนของชาวบ้านไม่ได้ไปแตะอยู่แล้ว
แม้แต่กฎหมายผังเมืองรวมที่จะออกมาบังคับใช้ก็ไม่มีผลย้อนหลัง นอกจากจะเป็นรีสอร์ตที่ปลูกสร้างแบบที่อาจเป็นอันตรายไม่ปลอดภัยถึงจะทำ โดยการให้แก้ไขปรับปรุงรื้อถอน
“ต้องไปทำความเข้าใจกับชาวทับเบิก และทางสื่อก็ต้องช่วยชี้แจงว่ารัฐไม่มีนโนบายจะไปแตะต้องเขา สิ่งที่จะเข้าไปจัดการก็คือคนข้างนอกที่เข้าไป รวมทั้งนายทุนก็ต้องแยกออกมาให้ได้ว่าไปซื้อต่อ หรือไปเช่าที่ดิน ก็ต้องพยายามหาข้อมูลออกมาให้ได้” รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์กล่าว
ต่อข้อซักถามที่ว่า ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงกับนายทุนเหล่านี้หรือไม่นั้น รองผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์กล่าวว่า “เป็นจิตสำนึก อันไหนควรไม่ควร พูดให้ตายสำหรับคนพวกนี้ผมว่าต้องใช้กฎหมายบังคับอย่างเดียว เพราะเท่าที่ทราบเจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายด้วยการเข้าจับกุมไปแล้ว แต่กลับยิ่งทำมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ”
“แม้เรื่องยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมเขาก็ไม่หยุด แถมยังทำมากกว่าเดิม ไม่เชื่อก็ลงไปดูตอนนี้ก็ได้ กำลังต่อเติม เริ่มสร้างขยายโดยไม่ได้เกรงกลัวอะไร จึงคิดว่าคนพวกนี้คุยด้วยไม่ได้แล้ว ทำได้อย่างเดียวต้องหามาตรการเร่งรัดจัดการให้เร็วที่สุด”
นายไกรสรกล่าวอีกว่า ตรงนี้ต้องเรียนกันตรงๆ ว่าพวกที่มีผลประโยชน์ก็ต้องดิ้น เพราะต้องการปกป้องรักษาผลประโยชน์เอาไว้ และการจะห้ามไม่ให้ดิ้นก็คงยาก เพราะกระบวนการยุติธรรมของเราต้องมีขั้นมีตอน และมีห้วงระยะเวลาอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือชาวบ้านต้องหวั่นไหวแน่นอน ทั้งๆ ที่เราก็พยายามบอกมาตลอดว่าเราไม่แตะ ในขณะที่นายทุนก็ต้องพยายามหาพวก หรือแนวร่วม โดยใช้ชาวบ้านเป็นเกราะกำบัง เพราะคงมองว่าลำพังตัวเองไปไม่รอดอยู่แล้ว หากได้มวลชนแนวร่วมขึ้นมาก็จะทำให้มีอำนาจต่อรอง โดยเฉพาะการยืดระยะเวลาออกไปได้อีก แต่ในที่สุดก็คงยื้อไปไม่ได้เท่าไหร่
“ทางที่ดีควรต้องมีการเรียกค่าเยียวยาจากสิ่งที่นายทุนเหล่านี้ได้ทำลงไปด้วย โดยเฉพาะการเรียกค่าเสียหาย ไม่ใช่เพียงแค่รื้อถอนอย่างเดียว”นายไกรสรกล่าวย้ำ
ทั้งนี้ นายไกรสรยังได้กำชับให้ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านในเขตภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างการประชุมร่วมกับวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการ และตัวแทนจากภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ โรงเรียนทับเบิก ด้วยว่า ให้เร่งชี้แจงกับชาวบ้านให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้ามาจับกุม แต่ต้องการจัดระเบียบ ส่วนกลุ่มคนที่ไม่ใช่ชาวเขาไม่มีสิทธิ์จะเข้ามาครอบครองที่ดินบนภูทับเบิก
รองผู้ว่าราชการจังหวัดยังกล่าวด้วยว่า การจัดระเบียบภูทับเบิกแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นชาวเขาที่เป็นคนพื้นที่และอยู่ในความดูแลของศูนย์ฯ ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มนอกพื้นที่ กลุ่มนี้กำลังมีการเร่งรัดบังคับคดี
วันเดียวกันนี้ นายสนม บุญจันทึก และนายสุนทร คงวราคม ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ สังกัดสำนักข่าวส่วนกลางหลายสำนัก ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก และ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ไว้เป็นหลักฐาน หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการโพสต์รูปผู้สื่อข่าวทั้งสองคนลงในเฟซบุ๊กของกลุ่มคนไม่เห็นด้วยกับการเสนอข่าวรีสอร์ตภูทับเบิกของสื่อ โดยเฉพาะสื่อทีวีบางช่อง โดยอ้างว่ามีการบิดเบือนข่าว
นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ชาวม้งในพื้นที่จดจำผู้สื่อข่าวสองคนนี้ให้ดี ในขณะที่บางรายถึงกับระบุว่า หากมีนักข่าวเข้ามาให้แจ้งให้ทราบเพื่อจะนำขี้ไปปาใส่
นายสนม และนายสุนทร เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างชัดเจน จึงได้เข้าร้องทุกข์แจ้งความไว้เป็นหลัก พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักมักคุ้นกับคนเหล่านี้มาก่อน นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตถึงบุคคลที่โพสต์รูปว่ามีเจตนาเคลือบแฝงอะไรหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับนายทุนเจ้าของรีสอร์ตบางรายอย่างแนบแน่น