เพชรบูรณ์ - พบบ้านพัก รีสอร์ตบน “ภูทับเบิก” ร่วมพันหลัง แต่มีถังดับเพลิงไม่ถึง 1% ขณะที่การก่อสร้างห้องพักเพิ่มยังมีต่อเนื่อง หลังเห็นยอดนักท่องเที่ยวทะลัก เผยปีก่อนมี นทท.กว่า 9 แสนคน ขณะที่ปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ทำคนท้องถิ่น ต่างถิ่นเห็นโอกาสลงทุนเพิ่มไม่หยุด
วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางรีสอร์ตทั้งเก่า-ใหม่ รวมทั้งรีสอร์ตที่กำลังขยายก่อสร้างห้องพักเพิ่มขึ้นบนยอดเขา “ภูทับเบิก” ต.วังบาล อ.หลุ่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รองรับคลื่นนักท่องเที่ยวในห้วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในประเด็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมของภูทับเบิก ที่เคยมีไร่กะหล่ำของชาวเขาเผ่าม้งสุดลูกหูลูกตา มาตรฐานความปลอดภัย อัตราค่าบริการที่แพงเกินจริง ฯลฯ
ล่าสุด ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ อ.หลุ่มเก่า ได้ลงพื้นที่จัดระเบียบรีสอร์ตบนภูทับเบิกต่อกลุ่มผู้ประกอบการ โดยมีข้อตกลงร่วมกันในเบื้องต้น 5 ประเด็นคือ 1.ก่อสร้างทุกครั้งต้องขออนุญาตจากผู้ดูแลพื้นที่ 2.ทุกรีสอร์ตต้องจัดหาถังขยะไว้ให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะ 3.การจองที่พัก และการปฏิเสธนักท่องเที่ยวต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนมีโทษถึงขั้นปิดถาวร 4.การป้องกันอัคคีภัยทุกรีสอร์ตต้องมีเคมีดับเพลิงทุกห้อง และ 5.ต้องช่วยเหลือชุมชนด้านต่างๆ ยึดหลักการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขพึ่งพาอาศัยกันได้
นายวันชัย ชยารมณ์ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวภูทับเบิก ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 16 บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเริ่มชี้แจงทำความเข้าใจต่อบรรดารีสอร์ตที่อยู่ในกลุ่มทั้งหมดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว ก็คิดว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้น หลังจากที่ผ่านมาแม้แต่หน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ยังควบคุมดูแลไม่ได้ และถ้าจะให้ผู้นำหมู่บ้าน รีสอร์ต หรือกลุ่มวิสาหกิจมาควบคุมดูแลกันเองเชื่อว่าก็คงจะเละเทะแบบนี้ต่อไป
ประธานชมรมท่องเที่ยวภูทับเบิก กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องถังเคมีดับเพลิงนั้นยอมรับว่า บ้านพัก รีสอร์ตบนภูทับเบิกเวลานี้มีจำนวนราวเกือบ 800 หลัง มีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกรอบกติกาออกมาแบบนี้ก็ต้องแจ้งให้ทุกรีสอร์ตเร่งดำเนินการ
นายวันชัย กล่าวอีกว่า ช่วงฤดูท่องเที่ยวปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว และพักค้างแรมที่ภูทับเบิกราว 9 แสนคน แต่ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทำให้ห้องพักที่จะรองรับนักท่องเที่ยวมีไม่พอเพียง จึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้มีบ้านพักรีสอร์ตผุดเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก รีสอร์ตบางแห่งรับจองนักท่องเที่ยวไว้แล้ว แต่บ้านพักไม่พอก็จำเป็นต้องเร่งก่อสร้างเพิ่มเติม ส่วนรายใหม่ก็เห็นโอกาสกระทั่งตัดสินใจลงทุนสร้างบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยว
“การที่ไม่มีหน่วยงานไหนที่จะมาควบคุมเอาจริงเอาจัง ทำให้ต้องเละเทะสเปะสะปะกันไปแบบนี้ และบ้านพักที่แลดูแออัด ก็เป็นไปวิถีชีวิตชาวม้งในการสร้างที่พักอาศัยมักใช้พื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเจ้าของรีสอร์ตแต่ละแห่งต่างมีที่ดินแค่ครอบครัวละ 1-2 ไร่ ก็เลยทำให้การก่อสร้างบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวเกิดความแออัดไปด้วย ส่วนรูปแบบที่ออกมาแม้จะดูดีในสายตาพวกเรา ก็อาจจะไม่ถูกใจนักท่องเที่ยวเท่านั้น”นายวันชัย กล่าว
วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางรีสอร์ตทั้งเก่า-ใหม่ รวมทั้งรีสอร์ตที่กำลังขยายก่อสร้างห้องพักเพิ่มขึ้นบนยอดเขา “ภูทับเบิก” ต.วังบาล อ.หลุ่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รองรับคลื่นนักท่องเที่ยวในห้วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในประเด็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมของภูทับเบิก ที่เคยมีไร่กะหล่ำของชาวเขาเผ่าม้งสุดลูกหูลูกตา มาตรฐานความปลอดภัย อัตราค่าบริการที่แพงเกินจริง ฯลฯ
ล่าสุด ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ อ.หลุ่มเก่า ได้ลงพื้นที่จัดระเบียบรีสอร์ตบนภูทับเบิกต่อกลุ่มผู้ประกอบการ โดยมีข้อตกลงร่วมกันในเบื้องต้น 5 ประเด็นคือ 1.ก่อสร้างทุกครั้งต้องขออนุญาตจากผู้ดูแลพื้นที่ 2.ทุกรีสอร์ตต้องจัดหาถังขยะไว้ให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะ 3.การจองที่พัก และการปฏิเสธนักท่องเที่ยวต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนมีโทษถึงขั้นปิดถาวร 4.การป้องกันอัคคีภัยทุกรีสอร์ตต้องมีเคมีดับเพลิงทุกห้อง และ 5.ต้องช่วยเหลือชุมชนด้านต่างๆ ยึดหลักการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขพึ่งพาอาศัยกันได้
นายวันชัย ชยารมณ์ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวภูทับเบิก ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 16 บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเริ่มชี้แจงทำความเข้าใจต่อบรรดารีสอร์ตที่อยู่ในกลุ่มทั้งหมดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว ก็คิดว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้น หลังจากที่ผ่านมาแม้แต่หน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ยังควบคุมดูแลไม่ได้ และถ้าจะให้ผู้นำหมู่บ้าน รีสอร์ต หรือกลุ่มวิสาหกิจมาควบคุมดูแลกันเองเชื่อว่าก็คงจะเละเทะแบบนี้ต่อไป
ประธานชมรมท่องเที่ยวภูทับเบิก กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องถังเคมีดับเพลิงนั้นยอมรับว่า บ้านพัก รีสอร์ตบนภูทับเบิกเวลานี้มีจำนวนราวเกือบ 800 หลัง มีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกรอบกติกาออกมาแบบนี้ก็ต้องแจ้งให้ทุกรีสอร์ตเร่งดำเนินการ
นายวันชัย กล่าวอีกว่า ช่วงฤดูท่องเที่ยวปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว และพักค้างแรมที่ภูทับเบิกราว 9 แสนคน แต่ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทำให้ห้องพักที่จะรองรับนักท่องเที่ยวมีไม่พอเพียง จึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้มีบ้านพักรีสอร์ตผุดเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก รีสอร์ตบางแห่งรับจองนักท่องเที่ยวไว้แล้ว แต่บ้านพักไม่พอก็จำเป็นต้องเร่งก่อสร้างเพิ่มเติม ส่วนรายใหม่ก็เห็นโอกาสกระทั่งตัดสินใจลงทุนสร้างบ้านพักรองรับนักท่องเที่ยว
“การที่ไม่มีหน่วยงานไหนที่จะมาควบคุมเอาจริงเอาจัง ทำให้ต้องเละเทะสเปะสะปะกันไปแบบนี้ และบ้านพักที่แลดูแออัด ก็เป็นไปวิถีชีวิตชาวม้งในการสร้างที่พักอาศัยมักใช้พื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเจ้าของรีสอร์ตแต่ละแห่งต่างมีที่ดินแค่ครอบครัวละ 1-2 ไร่ ก็เลยทำให้การก่อสร้างบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวเกิดความแออัดไปด้วย ส่วนรูปแบบที่ออกมาแม้จะดูดีในสายตาพวกเรา ก็อาจจะไม่ถูกใจนักท่องเที่ยวเท่านั้น”นายวันชัย กล่าว
