ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจพัทยา รุดตรวจสอบอะโกโก้ในพื้นที่ หลังโลกออนไลน์เผยภาพหนุ่มพนักงานภายในร้านก่อเหตุต่อยนักท่องเที่ยวแดนจิงโจ้ที่เมาสุรา และชักดาบค่าเหล้า เผยต่างชาติคนดังกล่าวทำตัวสุดป่วนจึงบันดาลโทสะ พร้อมกล่าวขอโทษชาวพัทยาที่ทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่นายจอห์นนี่ อายุประมาณ 60 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ได้เข้าไปนั่งดื่มสุราภายในร้านโอเอซิส อะโกโก้พัทยา และได้สั่งเหล้า จำนวน 2 แก้ว ในราคา 160 บาท มานั่งดื่ม แต่สุดท้ายกลับไม่จ่ายเงินค่าเหล้า และพยายามทำร้ายพนักงานภายในร้าน จนเป็นเหตุให้พนักงานเสิร์ฟของร้านดังกล่าววิ่งตามออกมาทำร้ายร่างกายจนศีรษะแตกได้รับบาดเจ็บ จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.โกวิทย์ สวัสดิ์มงคล สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจกว่า 10 นาย เข้าตรวจสอบร้านโอเอซิส อะโกโก้พัทยา ซึ่งก็พบว่า ร้านดังกล่าวยังเปิดให้บริการตามปกติ
บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการไม่มากนัก เจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือทางร้านให้ปิดเพลง พร้อมกับสั่งให้เปิดไฟร้านเพื่อทำการตรวจสอบประวัติพนักงาน ใบอนุญาตประกอบกิจการ และอื่นๆ
จาการตรวจสอบพบมีพนักงาน จำนวน 2 คน ไม่ได้จัดทำประวัติพนักงาน ส่วนใบอนุญาตต่างๆ ทางร้านได้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่อย่างครบถ้วน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.สุวรรณี มอมประโคน อายุ 25 ปี ผู้ดูแลร้านส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีในฐานความผิด “ข้อหาไม่จัดทำประวัติพนักงาน” มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ
ส่วนบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปทำร้ายนักท่องเที่ยวที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายกฤษณะ โตตามวงศ์ อายุ 30 พนักงานเสิร์ฟ ซึ่งยังคงมาทำงานตามปกติ พร้อมให้การว่า ทำงานที่อะโกโก้แห่งนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว
วันเกิดเหตุ นายจอห์นนี่ ซึ่งมีอาการเมาสุราได้เข้ามาใช้บริการภายในร้าน พร้อมสั่งเหล้าดื่ม 2 แก้ว เป็นเงินจำนวน 160 บาท เมื่อนำบิลค่าเหล้าไปเก็บเงิน นายจอห์นนี่ กลับขยำบิลทิ้ง และผลักอกพนักงาน ก่อนโวยวายเดินหนีออกไป
กระทั่ง นายจอห์นนี่ ถูกชาวต่างชาติที่นั่งดื่มสุราอยู่ร้านข้างๆ ชกใบหน้า 1 ครั้ง แต่นายจอห์นนี่ ก็ยังโวยวายอยู่บริเวณหน้าร้าน ตนจึงบันดาลโทสะวิ่งปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกาย นายจอห์นนี่ จนได้รับบาดเจ็บ และไม่ทราบว่ามีพลเมืองถ่ายคลิป ไว้จนตกเป็นข่าวทำให้ภาพลักษณ์เมืองพัทยาเสียหาย
ทั้งนี้ ต้องการที่จะขอโทษ และยอมรับผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาติดลบ และขอวอนสังคมให้อภัยต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และยืนยันว่า จะไม่มีการกระทำเช่นนี้อีก