ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บริหารโรงแรมพัทยา รุดขอโทษหญิงสาวเหตุถูกทำร้ายร่างกายหน้าโรงแรม ลั่นเพิ่มระบบความเข้มข้นคัดกรองบุคลากร และเป็นบทเรียนราคาแพง พร้อมขอโทษสังคม ด้านหญิงสาวไม่ติดใจบอกเข้าใจ พร้อมขอบคุณผู้บริหารที่แสดงความห่วงใย ไม่ทอดทิ้งลูกค้า
จากกรณีสังคมโซเชียล เน็ตเวิร์ก ได้โพสต์ และแชร์คลิปพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ใช้กำลังทำร้ายร่างกายหญิงสาวที่นำใบขับขี่มาติดต่อใช้บริการ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (26 ต.ค.) นายสุวิทย์ วนิชประภา ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มโรงแรมในเครือซันชายน์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ในฐานะผู้บริหารโรงแรมเดอะ ซัน เอ็กซ์คลูซีพ พร้อมผู้บริหารโรงแรมเดอะ ซัน เอ็กซ์คลูซีพ ซึ่งเป็นโรงแรมที่เกิดเหตุ ได้เปิดห้องแถลงข่าวขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยมี น.ส.ม่อน (สงวนชื่อและสกุล) หญิงสาวที่ปรากฏอยู่ในคลิป และสื่อมวลชนเข้าร่วม
นายสุวิทย์ กล่าวว่า หลังจากฝ่ายบริหารโรงแรมรับทราบเหตุการณ์รู้สึกมีความไม่สบายใจ จึงพยายามติดต่อผู้เสียหายมาพูดคุยทำการขอโทษ และทำความเข้าใจ แท้จริงแล้วเอกสารที่มีรูปถ่าย และหมายเลขบัตรประชาชนที่ถูกต้องตามกฎหมายสามารถติดต่อใช้บริการได้ แต่ด้วยมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยวเข้ามาขโมยทรัพย์สินของลูกค้าในโรงแรม จึงมีแนวปฏิบัติให้พนักงานตรวจสอบอย่างเคร่งครัด แต่ด้วยการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน และการขาดความรู้ของพนักงาน ประกอบกับภาวะความเครียดของพนักงานจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ โรงแรมอยากจะขอโทษต่อหญิงสาวคนดังกล่าว ถือเป็นบทเรียนราคาแพง พร้อมขอโทษต่อสังคมในฐานะผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมบริเวณหน้าโรงแรม อยากทำความเข้าใจว่า ฝ่ายบริหารได้เน้นย้ำในเรื่องของการบริการกับพนักงานมาโดยตลอด แต่ยังเกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งหลังจากนี้ จะเพิ่มระบบความเข้มข้นของการคัดกรองบุคลากรให้มากยิ่งขึ้น และจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป
ด้าน น.ส.ม่อน ผู้เสียหาย กล่าวว่า เดินทางมากับแฟนหนุ่มชาวบังกลาเทศเพื่อติดต่อห้องพัก แต่กลับมาเจอเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต ตอนแรกก็รู้สึกเสียใจว่าเราเป็นลูกค้าทำไมต้องมาต้อนรับเราแบบนี้ ทั้งที่แฟนหนุ่มก็รออยู่ข้างล่างหน้าบันไดทางขึ้นโรงแรม แต่หลังจากทางผู้บริหารโรงแรมออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ทอดทิ้งลูกค้า ก็รู้สึกดีใจ และไม่ติดใจอะไร เพราะเข้าใจเหตุการณ์ว่าเป็นการบันดาลโทสะ แต่ก็อยากขอว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับผู้หญิงอีก