“บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” ช่วยเหลือครอบครัวสาวระยองถูกสาดน้ำกรดตาบอด

ระยอง - “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” ช่วยเหลือครอบครัวสาวระยองถูกสาดน้ำกรดตาบอด ใบหน้าเสียโฉมจนตกเป็นข่าวดัง

จากกรณี บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้ช่วยเหลือครอบครัว น.ส.สาธิมา หรือนุช แช่มช้อย อายุ 28 ปี ถูกน้องสาวเพื่อนสาดน้ำกรดใส่หน้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ใบหน้าเสียโฉม ดวงตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ขณะตั้งครรภ์ต้องนอนรักษาบาดแผลนานกว่า 5 เดือน หลังเกิดเหตุสามีก็ทิ้งไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมมือสาดน้ำกรดมาดำเนินคดีได้ตามที่เป็นข่าวดังในเฟซที่แชร์กันในโลกออนไลน์นั้น

วันเดียวกันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบ น.ส.สาธิมา หรือนุช แช่มช้อย สาวพิการตาบอดที่โดนสาดน้ำกรดจนใบหน้าเสียโฉม ที่บ้านเช่าเลขที่ 109/2 หมู่ 9 ตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันอยุ่กับสามีใหม่อาชีพเด็กรถส่งน้ำมัน พร้อมลูกสาววัย 2 ขวบเศษ 1 คน และมีนางสมพงษ์ แก้วขัน อายุ 67 ปี มีศักดิ์เป็นยายมาคอยดูแลความเป็นอยู่

ขณะนี้เรื่องความเป็นอยู่นับได้ว่าสบายดี จิตใจก็สบายเพราะมีสามีคอยดูแล คอยให้กำลังใจ ก่อนหน้าทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) น้ำเป็น พร้อมชาวบ้านได้สนับสนุนเงิน จำนวน 30,000 บาท เป็นค่าทำศัลยกรรมรักษาบาดแผลบนใบหน้า แต่เนื่องจากไม่พอค่ารักษาจึงได้เก็บเงินก้อนนั้นไว้ก่อน

หลังคลอดลูกชายชื่อ ด.ช.ณัฐวัฒน์ หรือน้องนิค กล่ำแสง ปัจจุบันอายุ 2 ปีเศษ ขณะนี้ลูกชายเริ่มโตจึงเกิดวิตกว่าจะกลายเป็นเด็กที่มีปัญหา เมื่อเข้าโรงเรียนจะถูกเพื่อนๆ ล้อว่ามีแม่ตาบอดหน้าตาอัปลักษณ์ และวันหนึ่งเมื่อเขาโตขึ้นจะเกิดความอับอายเพื่อนจะกลายเป็นช่องว่างระหว่างลูกกับแม่ สำหรับตัวเองไม่มีปัญหาเพราะสามีรับได้ ส่วนตัวเราก็ทำเป็นไม่ได้สนใจใคร เวลานี้คุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวเราใกล้จะถึงฝั่งแล้ว

“ถ้าไม่มีคุณบิณฑ์ ก็จะไม่มีวันนี้ เพราะปัจจุบันนี้คิดว่ามีความพอใจที่มีคนช่วยอยู่แล้ว สำหรับสาเหตุที่โดนสาดน้ำกรดจนใบหน้าเสียโฉมคาดว่า อาจเป็นเรื่องอิจฉากันโดยที่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเกลียดเรื่องอะไร ก็อยากจะถามคนที่สาดน้ำกรดว่า เขาเกลียดเราเรื่องอะไรถึงมาทำกับเราขนาดนี้เพิ่งจะทราบในวันนี้ว่า คนที่สาดน้ำกรดเราได้เสียชีวิตแล้ว พูดแล้วยังขนลุก”

ด้าน นางเบญญาภา มุ่งต่อกิจ รองปลัด อบต.ทุ่งควายกิน อำเภอแกลง กล่าวว่า น.ส.สาธิมา แช่มช้อย มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 1 ตำบลน้ำเป็น อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง ต่อมาได้ย้ายเข้ามาเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งควายกินได้ 2 ปีแล้ว หลังมีข่าวในเฟซจึงเดินทางมาตรวจสอบ

ขณะนี้กำลังจะย้ายสำเนาทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่บ้านญาติพี่น้องซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าในพื้นที่ อบต.ทุ่งควายกิน หลังย้ายเรียบร้อยแล้ว นายชัยณรงค์ สันทัศนะโชค นายก อบต.ทุ่งควายกิน จะจัดหาทุนทำดอกไม้จันทน์ส่งขายให้กลุ่มดอกไม้จันทน์ของ อบต.ไปดำเนินการจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่ง สำหรับเรื่องที่อยู่อาศัย ทางนายก อบต.กำลังดำเนินการทำเรื่องของบสร้างบ้านให้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ต้องเช่าบ้าน

นางเบญญาภา รองปลัด อบต.ทุ่งควายกิน กล่าวว่า วันนี้หลังตกเป็นข่าวดังได้มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น คือ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดระยอง มอบเงินสงเคราะห์ จำนวน 3,000 บาท พร้อมของเล่นเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง มอบเงิน 1,000 บาท และของใช้สำหรับเด็ก พร้อมมอบเงินครอบครัวอุปถัมภ์อีกเดือนละ 2,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี

รวมทั้งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดระยอง เดินทางมาดูเพื่อหาทางช่วยเหลือ รวมทั้ง น.ส.ขวัญเรียม เนียนนะรา พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บ้านเขาดิน และ น.ส.วีรยา วงศ์ปก นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติบัติการ มาให้คำแนะนำการเลี้ยงดูเด็กเล็ก

ด้าน พ.ต.ท.สุระพล จิตรักษ์ สว.สส.สภ.แกลง กล่าวว่า คดี น.ส.สาธิมา แช่มช้อย ถูก น.ส.อรอุมา ทองงาม ใช้น้ำกรดสาดใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น คดีนี้เกิดตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา และ น.ส.อรอุมา ถูกจับกุมคดียาบ้าจึงได้มีการอายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดี ต่อมา น.ส.อรอุมา ผู้ต้องหาได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2557