ระยอง - สาวใหญ่พิการเดินไม่ได้ ซ้ำตาทั้งสองข้างเริ่มพร่ามัวและถูกสามีทอดทิ้ง แต่ก็สู้ชีวิตกู้เงินกองทุนคนพิการมาเช่าร้านขายข้าวสารหาเลี้ยงลูกสาว 2 คน วอนผู้ใจบุญช่วยรักษาดวงตาหลังเป็นโรคต้อหิน
วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นางปราณี หรือนุช สว่างสุข อายุ 40 ปี พักอยู่ห้องเช่าเปิดร้านขายข้าวสาร เลขที่ 201/1 หมู่ 1 ถนนประชานิมิตร ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยพิการเป็นโรคโปลิโอเดินไม่ได้ ซ้ำกำลังป่วยดวงตาเป็นโรคต้อหินทั้ง 2 ข้าง เริ่มมีอาการมองไม่ค่อยเห็นพร่ามัว โดยต้องหาเลี้ยงลูกสาว 2 คน และเป็นสาเหตุทำให้สามีทอดทิ้ง จึงเกิดอาการท้อต่อชีวิตเกรงจะดูแลลูกสาว 2 คนไม่ได้ จึงวิงวอนหาผู้ใจบุญช่วยหาแพทย์รักษาดวงตาให้หาย
หลังได้รับรายงาน นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่าย ติดราชการจึงได้ติดต่อ นายสิทธิพล พัฒนงาม นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค่าย พร้อมด้วย นายจรงค์ชัย มงคลชัยฤกษ์ รองนายกเทศมนตรี และนายทิวัฒน์ รัตนเกตุ สาธารณสุข อำเภอบ้านค่าย และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาทางช่วยเหลือ
นางปราณี กล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่ยังเล็กไม่สามารถเดินได้ มีสามี และมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 12 ปี กำลังเรียนชั้น ม.1 คนเล็กอายุ 4 ปี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สามีได้ทอดทิ้งครอบครัว ต้องทนอุปสรรคด้วยความพิการที่เดินไม่ได้ ต้องใช้คลานหาเลี้ยงลูกสาวด้วยการกู้เงินกองทุนคนพิการ จำนวน 20,000 บาท มาเช่าห้องเปิดขายข้าวสาร รับจ้างรีดผ้า เย็บผ้าอยู่ที่อำเภอบ้านค่าย
ขณะนี้เริ่มมีปัญหาที่ดวงตาข้างซ้าย และข้างขวาเริ่มมัวมองไม่ค่อยเห็น เกิดอาการเครียดหนักไม่มีเงินรักษาดวงตาให้หายเป็นปกติได้ วิตกกังวลว่าจะไม่มีใครเลี้ยงดูลูกสาวทั้ง 2 คนได้ในอนาคต หลังใช้บัตรคนพิการไปตรวจทราบว่าเป็นโรคต้อหิน ไม่รู้จะไปหาที่พึ่งจากใครจึงเขียนจดหมายไปหาบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ และคุณตัน เจ้าของเครื่องดื่มยี่ห้อดังเพื่อหาหมอรักษาโรคต้อหินให้หายขาด
ด้าน นายสิทธิพล พัฒนงาม นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค่าย กล่าวว่า ตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นพบว่า นางปราณี สว่างสุข เป็นคนพิการ และมีบ้านเลขที่อยู่อำเภอวังจันทร์ แต่มาอาศัยเช่าห้องขายข้าวสารอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านค่าย เบื้องต้น ต้องทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านค่ายก่อน เพื่อจะช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ที่ช่วยได้ แต่ก็จะดูแลอย่างเต็มที่ คิดว่าโรคต้อหินน่าจะรักษาได้ ส่วนเรื่องคุณภาพชีวิตเรื่องการประกอบอาชีพ มีความเหมาะสมที่จะทำอาชีพอะไรก็จะได้เข้ามาส่งเสริมเรื่องอาชีพตามโครงการเยี่ยมบ้านผู้ยากไร้ต่อไป