สุรินทร์ - ชาวนาอำเภอศีขรภูมิระทมหนัก ข้าวที่กำลังออกรวงแห้งเหี่ยว ยืนต้นตาย ขณะที่เกษตรอำเภอศีขรภูมิเข้าสำรวจพื้นที่นาข้าวเสียหายเนื่องจากฝนทิ้งช่วงทำให้ข้าวตายและมีเมล็ดข้าวที่ลีบที่เก็บเกี่ยวไม่ได้ วอนรัฐบาลหาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 10.00 น. นายธนัช ยืนยิ่ง เกษตรอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้ออกสำรวจนาข้าวที่เสียหายในพื้นที่ตำบลตรึม อำเภอศีขรภูมิ หลังจากมีนายก้าน ทรัพย์เจริญ ผู้ใหญ่บ้านนา หมู่ที่ 7 ตำบลตรึม ได้ชี้แจงในที่ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมาว่า ผลของการทำนา นาข้าวเสียหายเกิดขึ้นในพื้นที่ของหมู่บ้านตนเองมีจำนวนกว่า 500 ไร่
เนื่องจากว่าฝนทิ้งช่วง ทำให้ข้าวที่จะออกรวงมามีสภาพที่เหี่ยวเฉาแห้งตายและไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้เลยแม้แต่นิดเดียว มีบางพื้นที่ที่ชาวนาเกี่ยวข้าวแล้วนำออกมาขายแล้วไม่ได้ราคา ซึ่งพ่อค้าคนกลางบอกว่ามีความชื้นบ้าง ข้าวลีบ ไม่มีคุณภาพ ทำให้ชาวนาในหมู่บ้านของตนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้านนางลม บุตรงาม อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 บอกว่า ตนทำนา 12 ไร่ แต่ก่อนเคยได้ไร่ละ 2 หมื่นกว่าบาท แต่ทุกวันนี้จะเอาแม้เพียงกระสอบเดียวก็ไม่เพียงพอ ไหนจะต้องติดหนี้ ธ.ก.ส.อีกจำนวนนับแสนบาท อยากขอให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือในการผ่อนชำระดอกเบี้ยออกไปก่อนเนื่องจากปีนี้นาแล้งมาก อีกทั้งยังมีหนี้นอกระบบที่จะต้องตามมาอีก
ทางด้านนายธนัช ยืนยิ่ง เกษตรอำเภอศีขรภูมิ เผยว่า เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ในขณะนี้ประเมินมาได้ 6 หมื่นกว่าไร่ แต่คาดว่าจะสรุปได้ไม่เกิน 4 หมื่นกว่าไร่ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 6 ตำบลที่เดือดร้อนหนัก มี ต.นารุ่ง ต.ตรึม ต.ตรมไพร ต.ระแงง ต.กุดหวาย ต.ผักไหม ที่ประสบความเดือดร้อนที่สุด ซึ่งในการช่วยเหลือนั้นตนจะได้ทำรายงานให้นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้รับทราบพร้อมที่จะประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง เพื่อหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม พบว่าชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนต่างพากันร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐให้ช่วยเหลือตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะภาวะหนี้สินที่ชาวนาไปหยิบยืมนายทุนและเงินหนี้ ธ.ก.ส.ที่ไปติดค้างชำระเอาไว้ วอนอยากให้รัฐบาลออกมาแก้ปัญหาพักชำระดอกเบี้ยให้พวกตนเอาไว้ก่อนพอลืมตาอ้าปากได้
