สธ.เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมืออากาศร้อนจัด 17-19 มี.ค.นี้ สวมเสื้อผ้าโปร่ง จิบน้ำบ่อยๆ ป้องกันร่างกายสูญเสียน้ำฉับพลัน เกิดโรคลมแดด
วันนี้ (16 มี.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนักวิชาการออกมาระบุถึงมวลอากาศร้อนที่จะเข้าสู่ประเทศไทย จะทำให้ประเทศไทยร้อนที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ช่วงวันที่ 17-19 มี.ค.นี้ และมีโอกาสเปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อน หรือฮีตเวฟ คือ อากาศมีอุณหภูมิร้อนเกิน 42 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง มีความชื้นสัมพัทธ์เกิน 70% ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ว่า ช่วงที่มีอากาศร้อนจัดคาดว่าจะเป็นช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ทำให้มีความเสี่ยงจะเป็นโรคลมแดด หรือฮีตสโตรกได้ง่าย เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงคือ เด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มคนที่ทำงานกลางแจ้ง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนเตรียมตัวให้พร้อม ดื่มน้ำเรื่อยๆ อย่างน้อย 1 ลิตร ป้องกันภาวะร่างกายสูญเสียน้ำเฉียบพลัน สวมเสื้อหาผ้าโปร่งสบายระบายอากาศได้ง่าย ไม่สวมเสื้อผ้าแนบเนื้อ
“หากพบผู้ป่วยมีอาการหน้ามืด กระสับกระส่าย การปฐมพยาบาลต้องรีบนำเข้ามาภายในร่ม ยกขาสูง ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ถ้ายังมีสติให้จิบน้ำเย็น ปลดคลายเสื้อผ้า กระดุมที่รัดแน่นออกเพื่อระบายความร้อน หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยโทร.สายด่วน 1669” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 มี.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนักวิชาการออกมาระบุถึงมวลอากาศร้อนที่จะเข้าสู่ประเทศไทย จะทำให้ประเทศไทยร้อนที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ช่วงวันที่ 17-19 มี.ค.นี้ และมีโอกาสเปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อน หรือฮีตเวฟ คือ อากาศมีอุณหภูมิร้อนเกิน 42 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง มีความชื้นสัมพัทธ์เกิน 70% ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ว่า ช่วงที่มีอากาศร้อนจัดคาดว่าจะเป็นช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ทำให้มีความเสี่ยงจะเป็นโรคลมแดด หรือฮีตสโตรกได้ง่าย เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงคือ เด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มคนที่ทำงานกลางแจ้ง ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนเตรียมตัวให้พร้อม ดื่มน้ำเรื่อยๆ อย่างน้อย 1 ลิตร ป้องกันภาวะร่างกายสูญเสียน้ำเฉียบพลัน สวมเสื้อหาผ้าโปร่งสบายระบายอากาศได้ง่าย ไม่สวมเสื้อผ้าแนบเนื้อ
“หากพบผู้ป่วยมีอาการหน้ามืด กระสับกระส่าย การปฐมพยาบาลต้องรีบนำเข้ามาภายในร่ม ยกขาสูง ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ถ้ายังมีสติให้จิบน้ำเย็น ปลดคลายเสื้อผ้า กระดุมที่รัดแน่นออกเพื่อระบายความร้อน หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยโทร.สายด่วน 1669” ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่