xs
xsm
sm
md
lg

สดร.ชี้แสงสว่างวาบเหนือท้องฟ้าเป็นลูกไฟจากวัตถุในอวกาศ ไร้ผลกระทบต่อโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติฯ แจงกรณีรายงานการพบลูกไฟขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าพร้อมสว่างวาบช่วงค่ำวานนี้ (2 พ.ย. 58) เห็นได้ชัดเจนที่กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ระบุเป็น “Fireball” เกิดจากที่วัตถุในอวกาศหลุดลอดเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก ชี้สีเขียวที่เห็นน่าจะเป็น “โครเมียม” ที่เกิดการเผาไหม้จากการถูกเสียดสี เชื่อวัตถุที่ตกลงมาอาจมีส่วนประกอบที่เป็นโลหะ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการตกลงถึงพื้นและประมาณขนาดไม่ได้ ยืนยันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ โอกาสน้อยมากที่จะส่งผลกระทบต่อโลก

เมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย. 58 ที่ผ่านมา ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้แถลงข่าวกรณีที่ช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย. 58 มีการพบลูกไฟขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าและเกิดแสงสว่างวาบเป็นทางยาวสีเขียว โดยเห็นในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งอีกหลายจังหวัดของประเทศไทยว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวในทางดาราศาสตร์เรียกว่า ลูกไฟ หรือ Fireball ซึ่งเกิดจากวัตถุในอวกาศที่หลุดลอดเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก

เบื้องต้นมีรายงานการพบในเวลาประมาณ 20.40 น. เห็นได้หลายจังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และข้างเคียง รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำปาง ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวที่มีการพบเห็นปรากฏการณ์ในหลายพื้นที่อยู่ห่างไกลกันสันนิษฐานว่าลูกไฟนี้น่าจะเสียดสีในระดับสูงจากพื้นขึ้น 60-100 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ลักษณะของลูกไฟที่ตกลงมาในครั้งนี้มีแสงสว่างวาบ ระเบิดออก และมีการตกลงมาเพิ่มอีก โดยแสงสีเขียวที่เห็นจากลูกไฟดังกล่าว เบื้องต้นวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นผลจากการเสียดสีเผาไหม้ของโครเมียมที่อยู่ในวัตถุที่ตกลงมาในครั้งนี้ ซึ่งปกติแล้ววัตถุหรืออุกกาบาตที่ตกลงมามีทั้งที่เป็นหินหรือโลหะหรือทั้งโลหะและหิน โดยในปรากฏการณ์ครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าลูกไฟดังกล่าวอาจจะเป็นเหล็กหรือโลหะ

อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ และยังไม่มีรายงานว่าวัตถุดังกล่าวตกลงถึงพื้น ดังนั้นจึงยังไม่สามารถยืนยันการตกลงถึงพื้นได้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่จะมีการเผาไหม้จนหมดก่อนถึงพื้น ทั้งนี้ หากประชาชนที่สามารถบันทึกภาพหรือคลิปวิดีโอของปรากฏการณ์ในครั้งนี้เอาไว้ได้ ขอความร่วมมือให้ส่งมาให้ทาง สดร.เพื่อทำการวิเคราะห์การตกของลูกไฟดังกล่าวว่าน่าจะตกลงที่จุดใด ในประเทศไทยหรือไม่ รวมทั้งเป็นชนิดใด

สำหรับลูกไฟที่ตกลงมานั้น รองศาสตราจารย์ ดร.บุญรักษาบอกว่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติปกติ เพราะในอวกาศเศษวัตถุต่างๆ ทั้งหิน และโลหะล่องลอยอยู่เต็มไปหมด เมื่อโลกโคจรไปอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ที่วัตถุดังกล่าวอาจจะหลุดลอดตกลงมาในชั้นบรรยากาศของโลกจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าลูกไฟในครั้งนี้ค่อนข้างจะมีขนาดใหญ่ แต่ยังไม่สามารถประมาณขนาดได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีโอกาสน้อยมากที่ลูกไฟในลักษณะดังกล่าวจะส่งผลกระทบหรือเป็นอันตราย เนื่องจากส่วนใหญ่จะถูกเผาไหม้จนหมดก่อนถึงพื้นโลก และน้อยครั้งมากที่จะตกลงถึงพื้นโลก จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ระบุว่า ครั้งล่าสุดที่ประเทศไทยมีการพบเห็นปรากฏการณ์ลูกไฟตกลงมาครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน และมีการวิเคราะห์ข้อมูลจนคาดได้ว่าน่าจะมีการตกลงถึงพื้นในพื้นที่ของอุทยานไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

โดยการเกิดปรากฏการณ์ในครั้งล่าสุดนี้ยอมรับว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันมาก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามีโอกาสน้อยมากที่ปรากฏการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อโลก
รองศาสตราจารย์ ดร.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน)
กำลังโหลดความคิดเห็น