ประจวบคีรีขันธ์ - ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบฯ ลงพื้นที่ร่วมกับ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ตรวจสอบคราบน้ำมันตั้งแต่ชายหาดวนอุทยานปราณบุรี ถึงชายหาดหน้าวังไกลกังวล พบสถานการณ์คราบน้ำมันเริ่มคลี่คลายลงแล้ว เผยคราบน้ำมันที่พบเป็นน้ำมันเตาที่ด้อยคุณภาพถูกปล่อยจากเรือเหล็กกว่า 2,000 ลิตร จากปากอ่าวแม่กลอง มาจนถึงมหาชัย พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง แจ้งความเพิ่มเติมเอาผิดต่อผู้ที่ลักลอบปล่อยน้ำมันในสัปดาห์หน้า
วันนี้ (31 ต.ค.) ภายหลังคราบน้ำมันสีดำที่ลอยมาติดชายหาดชะอำ ชายหาดหัวหิน ชายหาดตะเกียบ ชายหาดเขาเต่า จนถึงบริเวณชายหาดวนอุทยานปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ทั้งจังหวัด อำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตลอดจนภาคประชาชนได้ร่วมกันจัดเก็บคราบน้ำมัน และเศษขยะที่ปนเปื้อนคราบน้ำมัน จนวันนี้บริเวณชายหาดเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
โดยเฉพาะชายหาดหัวหิน เริ่มมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลได้แล้ว รวมทั้งชายหาดอื่นๆ ส่วนที่ชายหาดเขาเต่า และชายหาดวนอุทยานปราณบุรี น้ำทะเลเริ่มใสมากขึ้น บริเวณชายหาดยังพบมีคราบน้ำมันบ้างบริเวณพื้นทรายของชายหาดลักษณะเป็นก้อนเหนียวสีดำคล้ายยางมะตอย เมื่อถูกแสงแดดก็จะเกิดการขยายตัว และซึมลงผิวทราย หรือที่เรียกกันว่า ทาร์บอลล์ ซึ่งต้องอาศัยเวลาการย่อยสลาย
นอกจากนี้ วันเดียวกันนี้ นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำงานเจ้าท่าภูมิภาค จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ กรีธาธร หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ชายหาดวนอุทยานปราณบุรีอีกครั้งในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พบว่า ชายหาดเริ่มดีขึ้น คราบน้ำมันสีดำเริ่มลดลง คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วง 2-3 วันนี้ แต่ยังคงงดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลไปก่อนอีก 2-3 วัน เนื่องจากตามชายหาดยังมีคราบน้ำมันหลงเหลืออยู่ แต่เป็นเพียงจุดคราบน้ำมันที่เป็นก้อนเล็กบ้างใหญ่บ้างตามพื้นที่ทรายชายหาดเท่านั้น
นายสุริยะ โกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำงานเจ้าท่าภูมิภาค จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สาเหตุมาจากมีเรือขนาดใหญ่ลักลอบปล่อยน้ำมันเตาจากปากอ่าวแม่กลอง มาจนถึงมหาชัย ซึ่งขณะนี้ทางกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการตรวจสอบตามที่มีผู้ให้ข้อมูลระบุไว้แล้ว ซึ่งน่าจะยืนยันได้ และน้ำมันเตาที่ถูกปล่อยออกมาเป็นน้ำมันอับเฉาในท้องเรือด้อยคุณภาพ ประมาณ 1,000-2,000 ลิตรโดยประมาณ
“ในเบื้องต้น ทางกรมเจ้าท่าได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวว่าคราบน้ำมันที่พบที่ชายหาดชะอำ ชายหาดหัวหิน หาดเขาตะเกียบ ไปจนถึงหาดวนอุทยานปราณบุรี มาจากเรือลำใด ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดต่อผู้ที่ลักลอบปล่อยน้ำมันตามมาตรา 119 ซึ่งปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 50,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน นอกจากนี้ ทางกรมเจ้าท่ายังได้ประสานไปยังสถาบันวิทยาการอากาศและภูมิสารสนเทศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอากาศ เพื่อใช้ดาวเทียมในการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย ซึ่งยังคงยืนยันว่า สถานการณ์คราบน้ำมันที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำแต่อย่างใดในช่วงนี้” นายสุริยะ กล่าว
ด้าน นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งให้นำเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี จัดกำลังจำนวน 50 นาย ออกจัดเก็บคราบน้ำมัน และเศษขยะที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ชายหาดหัวหิน หาดเขาตะเกียบ และหาดทรายใหญ่
รวมทั้งหาดวนอุทยานปราณบุรี โดยมีการปรับแผนการจัดเก็บทำความสะอาดเป็นช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 15.00 น.ไปจนถึงเวลา 18.00 น.ไปจนถึงวันที่ 3 พ.ย. ตามคำสั่งนั้น หากพบจุดไหนทางเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปดำเนินการทันที โดยในส่วนของหาดวนอุทยานปราณบุรี คาดว่าจะยังงดให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเล่นน้ำไปอีกอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งพบว่าภาพรวมส่วนใหญ่ถือว่าดีขึ้นมาก