อุบลราชธานี - คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล สั่งจังหวัดอุบลราชธานี เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลครบ 3 เดือนตามมติเดิม แต่หากระดับการไหลของน้ำลดต่ำกว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้คณะทำงานพิจารณาเปิด และปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลจังหวัดอุบลราชธานี สั่งปิดประตูเขื่อนปากมูลได้ทันที เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง
วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานผลการประชุมที่ห้องประชุมธำรงนาวาสวัสดิ์ ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กรุงเทพฯ ซึ่งได้จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ครั้งที่ 4/2558 เมื่อบ่ายวันที่ 27 ต.ค. โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิษกุล รมต.ประจำสำนักนายรัฐมนตรี และประธานคณะทำงานชุดนี้เป็นประธานในที่ประชุม
ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะทำงานพิจารณาเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลจังหวัดอุบลราชธานี ให้ปิดประตูระบายน้ำในวันที่ 31 ต.ค.เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้า ซึ่งคาดจะเกิดภัยแล้งรุนแรงในพื้นที่
ขณะเดียวกัน กลุ่มสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล เสนอให้เปิดประตูระบายน้ำให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการคือไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยเริ่มเปิดประตูเมื่อวันที่ 16 ส.ค. และปิดในวันที่ 16 พ.ย.
ผลการหารือของคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล คณะทำงานพิจารณาเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลจังหวัดอุบลราชธานี และตัวแทนชาวบ้านปากมูล นานกว่า 3 ชั่วโมง คณะกรรมการฯ มีมติให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลต่อไปให้ครบ 3 เดือน เพื่อเป็นไปตามมติของคณะกรรมการในการประชุมครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 10 ส.ค.
แต่ทั้งนี้ หากอัตราการไหลของน้ำในแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี มีอัตราการไหลของน้ำต่ำกว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือมีระดับน้ำต่ำกว่า 107 ม.รทก. (เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง) หรือมีระดับน้ำต่ำกว่า 2 เมตร จากความสูงทั้งหมดของลำน้ำที่ 7 เมตร คณะทำงานพิจารณาเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลจังหวัดอุบลราชธานี สามารถสั่งปิดประตูระบายน้ำได้ทันทีโดยไม่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมใหม่ เพื่อแก้ปัญหาขาดน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และเพื่อเกษตรกรรม
สำหรับระดับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 ต.ค. มีระดับน้ำสูง 3.06 เมตร อัตราการไหลของน้ำ 456 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.94 เมตร แนวโน้มระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ
หลังการประชุม นายกฤษกร ศิลารักษ์ แกนนำชาวบ้านสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า เมื่อคณะกรรมการมีมติดังกล่าวจึงประกาศยุติการชุมชนในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อรอหารือรอบใหม่กับคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลครั้งที่ 5/2558 ในวันที่ 16 พ.ย. ซึ่งจะมีการหารือกำหนดกรอบการตั้งคณะอนุกรรมการจ่ายเงินเยี่ยวยาให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 6,000 ครอบครัว ใน 3 อำเภอคือโขงเจียม สิรินธร และพิบูลมังสาหาร รายละ 300,000 บาท รวมทั้งจะหารือเรื่องการทดลองเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเป็นเวลา 5 ปี ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มสมัชชาคนจนต่อไปด้วย