เจรจาเปิดประตูระบายน้ำปากมูลยังไร้ข้อสรุป นัดหารืออีกครั้งสัปดาห์หน้า

อุบลราชธานี - ผลการเจรจาเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลยังไม่ได้ข้อสรุป ให้ทุกภาคส่วนไปหาข้อมูลผลดี-ผลกระทบ แล้วประชุมกำหนดวันเวลาเปิด-ปิดประตูระบายน้ำอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ด้านแกนนำกลุ่มสมัชชาคนจนขีดเส้นตายภายใน 7 วัน ไม่เห็นผลจะเดินทางไปพบรัฐบาลแทน

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ห้องประชุมจินดารัตน์ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูลประมาณ 20 คน นำโดย นายกฤษกร ศิลารักษ์ ประชุมร่วมกับตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลกว่า 10 หน่วยงาน โดยมีนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานที่ประชุม

โดยการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ข้อมูลปริมาณน้ำฝนในปีนี้อาจมีน้อยกว่าทุกปี เพราะฤดูฝนมาช้ากว่าปกติ ส่วนสำนักงานชลประทานระบุว่าปัจจุบันระดับการเก็บกักของเขื่อนปากมูลอยู่ต่ำกว่า 108 มรทก. อาจมีผลต่อการนำน้ำใช้ประโยชน์ทางชลประทาน

ขณะที่สำนักงานประมงแจ้งว่า แม่น้ำโขงยังไม่มีน้ำแดง เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังนิ่ง ไม่มีฝนตกลงมา และมีผลต่อการอพยพของปลา แต่ยอมรับว่าในช่วงฤดูวางไข่ของปลาในแม่น้ำมูลเกิดจากปลาอพยพมาจากแม่น้ำโขงถึงร้อยละ 70 ของปริมาณปลาที่วางไข่ทั้งหมด

ด้าน กฟผ.กล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการเปิดประตูระบายน้ำเมื่อเดือน ก.ค. 57 ยึดหลักการคำนวณอัตราการไหลผ่านของน้ำที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย ต้องมีการไหลเกิน 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีขึ้นไป จึงสามารถเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลโดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำที่อยู่ด้านเหนือเขื่อนขึ้นไป

ขณะที่นายกฤษกรกล่าวว่า ถ้าเปิดประตูระบายน้ำช้าจะส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำ และยังส่งผลต่อปริมาณสัตว์น้ำในแม่น้ำมูลต้องลดลงอีก จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเห็นใจชาวบ้านที่หากินอยู่ตามลุ่มน้ำ เพราะการสร้างเขื่อนปากมูลไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจตั้งแต่แรก และหากภายใน 7 วันจังหวัดไม่สั่งให้เปิดประตูระบายน้ำก็จะพาชาวบ้านเดินทางไปเรียกร้องจากรัฐบาลแทน

นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สรุปว่า การเปิด-ปิดประตูระบายน้ำไม่ได้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงผู้เดียว เพราะเมื่อปี 2556 ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีคำสั่งยกเลิกทั้งมติ ครม.ที่ให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล และคณะกรรมการแก้ไขปัญหากลุ่มสมัชชาคนจนที่มีอยู่ทุกชุด แต่ให้อำนาจว่าการเปิดและปิดประตูระบายน้ำต้องอาศัยการหารือถึงผลกระทบจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำและกลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจน จึงขอเวลาให้ทุกหน่วยงานนำข้อมูลมาสรุปร่วมกัน โดยจะมีการนัดประชุมหารือเพื่อกำหนดวันเวลาเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง