ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รอง มทภ.2 ตรวจเยี่ยมศูนย์ดำรงธรรมโคราช ติดตามผลแก้ปัญหา เผยชาวอีสาน 20 จังหวัด ร้องช่วยแก้ปัญหาเกือบ 3 หมื่นเรื่อง หนี้สินนำลิ่วกว่า 4,000 เรื่อง ตามด้วยปัญหาที่ดินทำกิน และร้องผู้มีอิทธิพล 867 เรื่อง ลั่นไม่ยอมมีผู้มีอิทธิพลเกิดขึ้น หากพบดำเนินการเบาไปหาหนัก ก่อนใช้ กม.ขั้นเด็ดขาด
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน รองแม่ทัพภาคที่ 2 (รอง มทภ.2) เดินทางมาตรวจเยี่ยม และติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมรับฟังการสรุปผลการดำเนินงานจากหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา
สำหรับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัดและให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการในจังหวัดสามารถบริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน และทำให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจสูงสุด
ผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา (1 ส.ค.57-ปัจจุบัน) มีจำนวนเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 2,304 เรื่อง ดำเนินการและแก้ไขแล้ว 1,791 เรื่อง ดำเนินการแล้วยังไม่ยุติ 513 เรื่อง โดยเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด คือ ปัญหาหนี้สิ้น ปัญหาที่ดิน และเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐ
พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน รอง มทภ.2 กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมครั้งนี้เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะของศูนย์ดำรงธรรม โดยภาพรวมในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียน ทั้งสิ้น 29,744 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องปัญหาหนี้สิน จำนวน 4,633 เรื่อง ปัญหาที่ดินทำกิน จำนวน 3,508 เรื่อง ปัญหาการใช้อำนาจรัฐ จำนวน 3,098 เรื่อง ปัญหายาเสพติด จำนวน 1,433 เรื่อง ปัญหาบ่อนการพนัน จำนวน 1,394 เรื่อง ปัญหาผู้มีอิทธิพล จำนวน 867 เรื่อง ปัญหาป่าไม้ จำนวน 705 เรื่อง ปัญหาเรื่องอาวุธสงคราม จำนวน 28 เรื่อง และปัญหาอื่น จำนวน 14,005 เรื่อง
สำหรับปัญหาผู้มีอิทธิพลนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ และยอมไม่ได้ที่จะให้เกิดขึ้น ซึ่งการดำเนินการนั้นจะมีการบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงานทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง สิ่งที่รับทราบมาจากข้อมูลของศูนย์ดำรงธรรมว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยจะดำเนินการจากเบาไปหาหนัก หากยังไม่ดำเนินการแก้ปัญหาจะต้องดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด เพราะขบวนการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น