“ตราด” จัดสัมมนา "เกษตรอุตสาหกรรมการแปรรูปทุเรียนเพื่อการส่งออก"

ตราด - สภาเกษตรกรตราด จัดสัมมนา "เกษตรอุตสาหกรรมการแปรรูปทุเรียนเพื่อการส่งออก" พร้อมทำสัญญาขายล่วงหน้าให้จีน เผยชาวสวนทุเรียนตัดยางปลูกทุเรียนหวั่น 5 ปีมีปัญหา

วันนี้ (27 ต.ค.58 )ที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการแปรรูปและการส่งออก จ.ตราด นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดสัมมนาเกษตรอุตสาหกรรมการแปรรูปทุเรียนเพื่อการส่งออก และข้อตกลงสัญญา ซื้อขายล่วงหน้า โดยมีนายสว่าง ชื่นอารมย์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดตราด เป็นประธานในการจัดการสัมมนาในครั้งนี้

นายสว่าง กล่าวว่า จังหวัดตราดมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญคือ เงาะ ทุเรียน มังคุด และลองกอง มีพื้นที่ปลูกโดยรวมประมาณ 133,681 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 103,702 ไร่ ซึ่งทุเรียน มีพื้นที่ปลูก28,952 ไร่ ผลผลิตประมาณ 33,354 ตัน และปัจจุบันการปลูกทุเรียนจะมีการเพิ่มพื้นที่ปลูกมากขึ้นเพราะมีการตัดยางพารามาปลูก ซึ่งอีก 5 ปีจะเกิดปัญหาขึ้น

จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงต้องมีการเตรียมการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการจำหน่ายผลผลิตทุเรียนนอกจากจำหน่ายทุเรียนผลสด แล้วแนวทางหนึ่งที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาคือการกระจายส่วนแบ่งการตลาดไปสู่การจำหน่ายทุเรียนสุก เข้าสู่การแปรรูปเป็นทุเรียนแช่แข็งเพื่อไปสู่การอุตสาหกรรมแปรรูป

ขณะที่นายชาญนะ การที่สภาการเกษตรกร จังหวัดตราดได้ดำเนินโครงการนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะตอบสนองนโยบายรัฐบาล เพราะว่า การช่วยเหลือเกษตรกรรัฐบาลไม่สามารถช่วยเป็นรายบุคคลได้ แต่หากเรารวมกลุ่มกันจะทำได้เพื่อสร้างความเข้มแข็ง เพิ่มผลผลิต เพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มความรู้ ทำอย่างนี้จะเกิดผลดี ต่อชุมชน

ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้งบประมาณมาแล้ว 5 ล้าน /ตำบล เพื่อซื้อเครื่องจักร และเรื่องอื่นๆ จ.ตราดได้ 140 ล้านบาท แต่ละอำเภอกำลังทำโครงการอยู่ ส่วนการซื้อทุเรียนได้คุยกับผู้ประกอบการของจีนทราบว่า ราคาทุเรียนของเวียดนาม มาเลย์ ราคาสูงกว่าไทย 2-3 เท่า เพราะมาตรฐานเราไม่ดี มีทุเรียนอ่อน ต้องทำมาตรฐานให้ได้ อย่าคิดเพียงแค่เงินเล็กน้อย แต่จะเสียกันทั้งประเทศ เรากำลังเผชิญในเรื่องนี้ เพราะผลไม้ของไทยขายไปทั่วโลก เราจึงต้องดูแลคุณภาพให้ดี

นายชาญนะ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่เกษตรกรชาวสวนยางพาราหันมาโค่นยางพาราแล้วมาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้ทุเรียนล้นตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้านั้นทาง จ.ตราดจะได้ทำความเข้าใจและควบคุมไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาพอราคายางพาราราคาสูงก็โค่นทุเรียนมาปลูกยางพารา แต่พอยางพาราราคาถูกก็โค่นมาปลูกยางพารา ซึ่งไม่เป็นผลดี จึงต้องทำความเข้าในในเรื่องนี้

สำหรับสภาเกษตรกรได้จัดประชุมสัมมนาขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างครบถ้วนและยั่งยืนเเละเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร (ทุเรียน) โดยการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดพร้อมให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตร องค์กรเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนภายในจังหวัด เพื่อให้เกิดแนวทางการจัดทำข้อตกลงสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยองค์กรเกษตรกร

หลังจากนั้นนายวุฒิพงษ์ รัตนมนต์ ประธานสหกรณ์การเกษตรเพื่อการแปรรูปและการส่งออก จ.ตราด ได้ทำสัญญาขายทุเรียนแช่แข็ง 2,600 ตัน ให้กับMr.Nan Oshan ประธานกรรมการบริษัท เทียนซาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด