xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 เข้าพบ ผวจ.ตราด เผยภารกิจ ศปมผ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตราด - ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 เยี่ยมผู้ว่าฯ ตราด พร้อมเผยภารกิจของ ศปมผ. มั่นใจผ่านมติยุโรป ด้านประมงจังหวัดหวัดตราดเผยมีเรือประมงได้รับผลกระทบ 98 ลำ 150 ลำ ทำน่านน้ำกัมพูชา

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด พล.ร.ท.รังสฤษฏ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เดินทางแนะนำตัวต่อ นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และประชุมชี้แจงหารือการปฏิบัติราชการ

โดยประเด็นสำคัญที่หารือ ได้แก่ สถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์จังหวัดตราด เนื่องจากจังหวัดตราดมีสถานะเป็นทางผ่าน และปลายทาง เพราะมีอาณาเขตติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา มีประชากรต่างๆ ในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาใช้แรงงานในจังหวัดตราดจำนวนมาก นับเป็นจังหวัดที่มีความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในรูปแบบต่างๆ พบว่า กลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้ทำงานในร้านคาราโอเกะ เรือประมง อย่างไรก็ตาม จังหวัดตราดไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่สามารถระบุได้ว่าเป็นจังหวัดต้นทางของการค้ามนุษย์

ที่ประชุมได้รับทราบแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากจังหวัดตราดมีแนวโน้มจะขายตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล การประมง ผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความต้องการแรงงานไร้ฝีมือจากประเทศที่มีค่าแรงต่ำ หรือคุณภาพชีวิตต่ำกว่าประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะมีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาของแรงายข้ามชาติก็จะมีอัตราสูงขึ้นตามลำดับ จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการป้องกัน และปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพให้สูงยิ่งขึ้นตามไปด้วย

หลังการพบปะ และเยี่ยมเยียนแล้ว พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้นอกเหนือจากจะมาเยี่ยมศูนย์ปีโป้ที่ศูนย์ราชการชานแดนที่หาดเล็กแล้ว ได้มาพบปะกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเพื่อประสานความร่วมมือในเรื่องการทำงาน และนโบายของ ศปมผ.ในเรื่องที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายมา ซึ่งจากผลการปฏบัติที่ผ่านมาในเรื่องการแก้ปัญหาของเรือประมงนั้นสามารถปฏิบัติได้ตามขั้นตอน แม้จะต้องมีเรือประมงที่ได้รับผลกระทบบ้างแต่เป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ตาม เรือประมงเหล่านี้จะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลซึ่งจะตราดมีกว่า 76 ลำ ที่เข้าเกณฑ์ที่ได้รับการเยียวยา และเงินก็ได้รับมาแล้ว แต่มีเรือประมงเพียง 30 กว่าลำได้แจ้งมา ส่วนใหญ่ยังไม่ได้แจ้งมาซึ่งขอให้ทางจังหวัดได้เร่งดำเนินการโดยด่วน

“ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ได้ทำมาตลอด 6 เดือน ทำให้ทรัพยากรในทะเลมีมากขึ้น ชาวประมงสามารถจับปลาได้มีขนาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดต่อชาวประมงที่เกิดขึ้นทางรัฐบาลพร้อมจะเยียวยาให้ตามเงื่อนไข และที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เลยก็กำลังมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรอยู่ ซึ้งผลที่ได้ปฏิบัติว่าถือว่าประสบความสำเร็จ และมั่นใจว่าสหภาพยุโรปจะให้ใบเขียวประเทศไทย”

ทางด้านตัวแทนสำนักงานประมงจังหวัดตราด แจ้งว่า เรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทยของตราดมี 2,172 ลำ ไม่มีทะเบียนเรือไทย 797 ลำ มีการแจ้งเข้าออกที่ศูนย์ปีโป้วังกระแจะ (สำนักงานประมง จ.ตราด) 792 ลำ แจ้งที่ศูนย์ อ.คลองใหญ่ 1,466 ลำ และเรือประมงอวนรุนที่ได้รับผลกระทบจากค่ำสั่ง คสช.24/2558 จำนวน 98 ลำ ซึ่งเป็นเรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาตให้ทำการประมง และกำลังอยู่ระหว่างการเยียวยาจากรัฐบาล

นอกจากนี้ ยังมีเรือประมงของตราด 150 ลำ เข้าไปซื่อตั๋วทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา ซึ่งมีปัญหาคือ การเปิดตั๋วเป็นตั๋วที่ออกให้โดยหน่วยงานซึ่งอยู่ในขั้นตอนให้สถานทูตพิจารณาเอกสารว่าได้รับรองโดยรัฐบาลกลางหรือไม่ และเรือประมงที่สามารถขอทำประมงนอกน่านน้ำกัมพูชาจะต้องขอทำการประมงนอกนานน้ำ ซึ่งปัจจุบันยังไม่เปิดให้ชาวประมงขอทำประมงในฝั่งกัมพูชา

กำลังโหลดความคิดเห็น