ป่าไม้ลำปางรวบหนุ่มเชียงใหม่ ขับปิกอัพขนไม้ชิงชันกลางป่าเมืองรถม้า

ลำปาง - เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสกัดจับหนุ่มเชียงใหม่ ขับปิกอัพขนไม้ชิงชันกลางป่าลำปาง อ้างขนพืชผักผลไม้ไปส่งอุดรฯ ขากลับมีคนทุ่งเสลี่ยมจ้างขนของ แต่พอไปถึงเห็นเป็นไม้เถื่อนปฏิเสธแล้วกลับถูกขู่จนต้องยอม แถมตอน จนท.จู่โจมจับกลุ่มคนจ้างเปิดหนีเข้าป่าหมด

วันนี้ (25 ต.ค.) นายจเรศักดิ์ นันตวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) กรมป่าไม้ นายจรัล สะอาดจิตต์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.31 (แม่หวด) พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดลำปาง ได้เข้าสอบสวนนายจรัญ ไชยบุญเรือง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319/1 หมู่ 1 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.31 (แม่หวด) ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง

หลั งนายจรัญ ลักลอบขนไม้ชิงชันเถื่อนด้วยรถยนต์กระบะโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ผร 3095 เชียงใหม่ ออกจากป่าชุมชนท้ายหมู่บ้านใหม่ธานี หมู่ 6 ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางได้ในที่เกิดเหตุเป็นรถจักรยานต์ดัดแปลงในการชักลากไม้จำนวน 5 คัน ล้อเข็นลากไม้อีก 2 คัน ไม้ชิงชันขนาดใหญ่ 15 แผ่นเหลี่ยม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

เบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างขนส่งผลิตผลทางการเกษตร ทั้งผลไม้ และพืชผักทุกชนิดทั่วไทย โดยเที่ยวล่าสุดได้ไปส่งมะเขือเทศที่อุดรธานี ขณะจะกลับบ้านที่เชียงใหม่ มีคนชื่อ “เบิร์ด” เป็นคน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ว่าจ้างให้ไปบรรทุกข้าวโพดในที่เกิดเหตุ ด้วยราคา 4 พันบาท โดยให้เอาไปส่งพื้นที่แห่งหนึ่งใน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

จากนั้นตนได้ขับรถเข้าไปในป่าซึ่งมีคนใช้จักรยานยนต์นำทาง และเมื่อไปถึงกลับพบว่า สินค้าที่ให้ขนเป็นไม้เถื่อน ตนเองปฏิเสธแต่ถูกข่มขู่จึงต้องจำยอมนำไม้ชิงชันเถื่อนดังกล่าวขึ้นรถ แต่ระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าจู่โจมทำให้กลุ่มมอดไม้วิ่งหนีเข้าไปในป่าทั้งหมด และทิ้งตนเองไว้ที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในการให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการสอบสวนปากคำมีคนโทรศัพท์มาหาตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมขบวนการค้าไม้เถื่อนรายนี้มานานหลายวัน จนกระทั่งทราบเวลาแน่ชัดจึงได้ซุ่มเฝ้าดูพฤติกรรมจนพบว่า มีการกระทำผิดจริงจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่กลุ่มมอดไม้ไหวตัววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าเหลือเพียงผู้ต้องหาที่กำลังพยายามจะขับรถหนีแต่ไปไม่ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมเส้นทางจึงยอมจำนน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนเพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป

สำหรับกลุ่มมมอดไม้ที่ลักลอบตัดไม้ชิงชัน ซึ่งขณะนี้เป็นที่ต้องการในตลาดมืดเพื่อนำส่งไปยังประเทศจีน เนื่องจากไม้ชิงชันสามารถเอาไปทดแทนไม้พะยูง ที่กำลังถูกกวดขัดอย่างหนักทางภาคอีสาน กลุ่มมอดไม้จึงหันมาลักลอบตัดไม้ชิงชันในพื้นภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.ลำปาง ที่มีไม้ชิงชันจำนวนมาก อีกทั้งจะมีราคาถูกกว่าไม้พะยูงหลายเท่าตัว แต่หากนำออกนอกประเทศไปถึงที่หมายประเทศจีนแล้ว ไม้ดังกล่าวจะมีมูลค่าเพิ่มหลายสิบเท่าตัว บางท่อนราคาถึงหนึ่งแสนบาท

โดยการลักลอบตัดไม้ดังกล่าวจะทำกันเป็นขบวนการแบบกองทัพมด ลักลอบขนออกไปทั่วพื้นที่ จ.ลำปาง ทางเจ้าหน้าที่จึงเพ่งเล็งรถที่ดัดแปลงบรรทุกพืชผักผลไม้เป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมา สามารถจับกุมรถลักษณะดังกล่าวที่ลักลอบขนไม้ชิงชันได้หลายคดีแล้ว ซึ่งจะมีมาตรการในการเฝ้าระวังที่เข้มงวดต่อไป