อุดรธานี - โจ๋เมืองอุดรฯ เลือดร้อนบุกยิงถล่มอู่ซ่อมรถชานเมืองอุดรฯ คาดสาเหตุจากลูกค้าไม่พอใจฝีมือการซ่อมรถจักรยานยนต์ จึงหาเรื่องระบายแค้น พร้อมโพสต์ข้อความระบายผ่านเฟซบุ๊ก ด้านตำรวจเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุแล้ว
เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 ต.ค.58 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ภูชื่นบาน ร้อยเวร สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่บ้าน ซึ่งเหตุเกิดบ้านเลขที่ 632 หมู่ 4 ถ.มิตรภาพ ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
ที่เกิดเหตุเป็นอู่ซ่อมรถไม่มีชื่อ หน้าอู่ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้น จำนวน 3 ปลอก พร้อมหัวกระสุน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่หน้าบ้านและรถยนต์ของลูกค้า พบร่องรอยความเสียหายจากกระสุนปืน
จากการสอบสวนนายกิตติรัตฐ์ ราชหงส์ อายุ 29 ปี เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า ขณะตนกำลังนั่งพักผ่อนที่หน้าอู่กับครอบครัวและบรรดาเพื่อนๆ อยู่นั้น เวลาประมาณ 22.45 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขับขี่รถโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน 3886 ไม่ทราบหมวดอักษรมาจอดหน้าร้าน จากนั้นได้ยิงปืนเข้ามาในร้าน 3 นัด แล้วรีบขับรถหลบหนีเข้าไปในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ส่วนสาเหตุที่คนร้ายบุกมายิงใส่บ้าน คาดว่าคนร้ายมีเรื่องไม่พอใจในการซ่อมรถของเพื่อนลูกน้อง ที่เข้ามานั่งเล่นด้วยกันเป็นประจำ
นาย ก. (นามสมมุติ) คู่อริของคนร้าย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ที่บ้านเซ และไม่เคยมีเรื่องกับใครเลย คนร้ายที่ก่อเหตุคาดน่าจะเป็นนายบิว ก่อนหน้าจะเกิดเหตุเมื่อ 5 วันก่อน นายบิวได้นำรถจักยานยนต์มาให้ตนยกเครื่องให้โดยบอกให้เวลา 3 วัน ซึ่งตนคิดค่าซ่อม 5,000 บาท ต่อมานายบิว ได้มาเอารถตามที่นัดหมาย ซึ่งตนบอกว่ารถเพิ่งยกเครื่องใหม่อย่าเร่งเครื่องแรงให้สังเกตอาการของเครื่องด้วยระหว่างขับขี่และหากมีปัญหาอะไรก็บอกจะแก้ไขให้
เวลาผ่านไปจนกระทั่งวันนี้นายบิว ได้โทรมาหาตนแล้วด่าตนว่า ซ่อมรถไม่ได้เรื่อง ทั้งนายบิวได้โพสต์ภาพถ่ายเครื่องยนต์ลงเฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความว่า “ช่างหัว….ไม่มีจรรญาบัน ตั๋วกูคักอีหลี มึงเห็นโพสโทรหากูด้วยนะ ช่างก้องคนไทย สายซิ่ง เดี๋ยวกูแจ้งความแม่งเลยสัสเข้าข่ายต้มตุ๋นผู้บริโภค” เชื่อว่าข้อความดังกล่าวนี้ น่าจะเป็นสาเหตุในการลงมือ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าวิถีการยิงเฉียงขึ้นด้านบนแสดงว่าคนร้ายไม่ต้องการจะเอาชีวิตคนในบ้าน น่าจะเป็นการยิงเพื่อข่มขู่มากกว่า พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป