บุรีรัมย์ - หมอนวดแผนโบราณสาวชาว อ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ ถูกนายหน้าติดต่อทางเฟซบุ๊กและไลน์หลอกจะพาไปทำงานนวดแผนโบราณที่ดูไบ หลังโอนเงินค่าดำเนินการ 35,000 บาทเข้าบัญชีกลับหายหัว ล่าสุดโร่แจ้งตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีและนำเงินมาคืน พร้อมโพสต์ข้อความเตือนภัยผ่านเฟซบุ๊กมีเหยื่อหลายจังหวัดถูกหลอกลักษณะเดียวกัน สูญเงินรายละ 3.5-4 หมื่นบาท
วันนี้ (19 ต.ค.) น.ส.เกษร กองผักแว่น หรืออั๋น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 ม.1 ต.หินโคลน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อาชีพหมอนวดแผนโบราณ ได้นำเอกสารสำเนาบันทึกประจำวัน พร้อมสลิปการโอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร และผ่านตู้เอทีเอ็ม รวม 35,000 บาท ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยเร่งติดตามตัว น.ส.ณภัทร ขุนพรม หรืออั้ม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/5 ม.1 ต.ท่าแร้งออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้นำเงินกลับมาคืนให้ด้วย
หลังจากได้ถูก น.ส.ณภัทร หรืออั้ม นายหน้าสาวคนดังกล่าว หลอกลวงอ้างจะพาไปทำงานเป็นหมอนวดที่ประเทศดูไบ ได้ค่าแรงเดือนละ 5-6 หมื่นบาท โดยติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊ก และไลน์ เมื่อ น.ส.เกษร ผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ น.ส.ณภัทร นายหน้า งวดแรก วันที่ 4 ก.ย. 58 โอนผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย จำนวน 20,000 บาท ครั้งที่ 2 โอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา อีก 15,000 บาท รวมเป็น 35,000 บาท
เมื่อโอนเงินเสร็จเรียบร้อย วันเดียวกันนายหน้านัดให้ น.ส.เกษร ไปเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 น. แต่พอถึงเวลานัดกลับไม่มาตามนัด น.ส.เกษร ผู้เสียหายนั่งรอจนถึง 21.30 น. ยังไม่เห็น น.ส.ณภัทร มาตามนัดจึงได้โพสต์ไปสอบถามกลับบ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี่
สุดท้ายจึงรู้ว่าถูกหลอกได้เดินทางกลับมาแจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งที่จัดหางานจังหวัดตามขั้นตอน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายหน้าคนดังกล่าว
น.ส.เกษร ผู้เสียหาย บอกว่า สาเหตุที่ต้องการเดินทางไปทำงานนวดแผนโบราณที่ต่างประเทศเพราะมีค่าแรงสูงกว่าในไทย แต่หากไปผ่านกรมการจัดหางานจะล่าช้าและขั้นตอนยุ่งยาก จึงเลือกไปผ่านนายหน้า ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยไปที่ประเทศมาเลเซีย และประเทศเกาหลี ก็ไปผ่านนายหน้าเช่นเดียวกันแต่ไม่เคยถูกหลอกจึงไม่คิดว่าจะถูกหลอก
ส่วนเงินที่ถูกหลอกไปนั้นยืมเงินนอกระบบมา ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนายหน้าคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อไม่ให้ไปหลอกเหยื่อรายอื่นซ้ำอีก
ทั้งนี้ น.ส.เกษรยังได้โพส์ตข้อความพร้อมรูปถ่ายนายหน้าคนดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัยไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก มีคนโพส์ตเข้ามาแสดงความเห็นและแจ้งข้อมูลว่ามีผู้ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันหลายราย สูญเงินรายละ 35,000-40,000 บาท
