เชียงราย - มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายขอทหารช่วยขอคืนพื้นที่สวนสมเด็จย่า ที่ถูกชาวบ้านบุกรุกเข้าไปอยู่อาศัยเกือบ 300 ไร่ คาดขอคืนได้หมดไม่ต่ำกว่า 5 ปี
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผศ.เจษฎา สุวรรณ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ได้ตรวจสอบพื้นที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่รอบหนองบัวในเขตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เพื่อรองรับฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวที่จะมีผู้คนเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนมากขึ้น
ขณะเดียวกันยังดูแลการบำรุงรักษาพืชพรรณต่างๆ ที่มีการปลูกอย่างมากมายภายในสวน โดยเฉพาะสุพรรณิการ์ หรือฝ้ายคำดอกลา ที่ถือเป็นต้นไม้ประจำสวนแห่งนี้ ปัจจุบันมีกว่า 1,000 ต้น โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกต้นแรกเอาไว้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2543 ขณะที่อาณาบริเวณทั่วไปมีทั้งไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้ดอกไม้ประดับรายรอบหนองน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
ผศ.เจษฎากล่าวว่า สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เชียงราย ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เนื้อที่ประมาณ 625 ไร่ มีหนองน้ำขนาดใหญ่ คือ หนองบัวใหญ่ และหนองบัวเล็ก กว้างกว่า 250 ไร่ ถือเป็น 1 ใน 12 สวนทั่วประเทศที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2523
ปัจจุบันสวนได้รับการปรับปรุงและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาพรรณไม้นานาชนิด เป็นที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ประชาชนทั่วไปและนักศึกษาที่ทั้งใช้พักผ่อน และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์ โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่สวนเอาไว้ 12 คน มีฝ่ายดูแลเพื่อให้การมีสวนตรงตามวัตถุประสงค์ ภายในมีพระราชานุสาวรีย์เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้เคารพสักการะ และจัดพิธีเฉลิมพระเกียรติในโอกาสต่างๆ อีกด้วย
ผศ.เจษฎากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พบว่าที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการบุกรุกถือครองอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อติดต่อกันมาหลายปี โดยเฉพาะพื้นที่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ที่กรมป่าไม้มอบให้กับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายเป็นหน่วยงานดูแลรักษาประมาณ 600 ไร่ พบว่ามีผู้เข้าไปบุกรุกถือครองทั้งสร้างบ้าน ทำสวน ทำไร่ เป็นบริเวณกว้าง 200-300 ไร่ ทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายไม่สามารถเข้าไปพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนได้อย่างเต็มที่ ทั้งที่มีโครงการจะสร้างเป็นสวนลูกต่อจากสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เชียงรายในปัจจุบันซึ่งถือเป็นสวนแม่ แต่เมื่อมีผู้เข้าไปถือครองใช้ประโยชน์ก็ไม่สามารถเข้าไปพัฒนาได้ ครั้นทาง มรช.จะใช้กฎหมายเข้าไปจัดการอย่างเข้มงวดก็จะแรงเกินไป และในฐานะสถานศึกษาก็ไม่เหมาะที่จะใช้กฎหมายกับประชาชนในท้องถิ่น ดังนั้นที่ผ่านมาจึงใช้การเจรจาขอพื้นที่คืนติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
“ที่ผ่านมาได้เจรจาจนได้พื้นที่คืนมาบ้างแล้วประมาณ 100 กว่าไร่ และล่าสุดหลังจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาบริหารประเทศ ฝ่ายทหารก็ได้เข้าไปช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย โดยได้เข้าไปเจรจากับชาวบ้านเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่เข้ามาใช้พื้นที่ของสวนติดกับประตู 3 ของมหาวิทยาลัยใกล้กับหนองบัว จนปัจจุบันได้เจรจาตกลงกับผู้เข้าใช้ประโยชน์ ว่าจะคืนพื้นที่อีกประมาณ 30 ไร่ให้กับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายภายในเวลา 5 ปีแล้ว หากได้คืนก็จะพัฒนาเป็นสวนลูกตามแผนเดิมที่ตั้งเอาไว้ต่อไป ส่วนที่เหลือก็คงจะเจรจากันต่อไป และไม่อาจจะทราบได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด”