ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ระบุการตั้งท้องของแม่แพนด้า “หลินฮุ่ย” เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว ต้องให้อยู่แต่ในคอกกักอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะสิ้นสุดการตั้งท้อง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะคลอดในส่วนจัดแสดง พบเต้านมขยาย และเริ่มมีน้ำนมแล้ว คาดมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่น่าจะตกลูกภายในสัปดาห์นี้
วันนี้ (17 ต.ค.) นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้าการตั้งท้องของแม่แพนด้า “หลินฮุ่ย” ซึ่งวันนี้ตั้งท้องเป็นวันที่ 118 นับตั้งแต่วันที่ได้รับการผสมเทียมว่า จากการประเมินสถานการณ์ต่างๆ ขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงท้ายๆ ของการตั้งท้องแล้ว เห็นได้จากกระบวนการพัฒนาต่างๆ ทั้งร่างกาย และพฤติกรรม โดยแม้ว่าจะไม่ได้ทำการอัลตราซาวนด์ตรวจการตั้งท้องของ “หลินฮุ่ย” แต่เชื่อมั่นว่าตัวอ่อนยังอยู่ในท้องเพราะไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งบอกว่าตัวอ่อนหายไป โดยทางทีมงานมีการเฝ้าติดตามดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด
ส่วนการงดนำ “หลินฮุ่ย” ออกสู่ส่วนจัดแสดง และให้อยู่แต่ในคอกกักนั้น เนื่องจากทางทีมงานประเมินความเสี่ยงแล้วว่า เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงท้ายของการตั้งท้องแล้ว และ “หลินฮุ่ย” เริ่มมีพฤติกรรมไม่เชื่อฟังคำสั่งของพี่เลี้ยงมากขึ้น เกรงว่าหากมีการตกลูกในส่วนจัดแสดงจะมีความเสี่ยงมากกว่า และเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน จึงเรียกกลับเข้าคอกกัก และจะให้อยู่ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าการตั้งท้องจะสิ้นสุด เพื่อให้ง่ายต่อการเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และลดความเสี่ยงต่างๆ ลง โดยที่ยืนยันว่าการอยู่แต่ในคอกกักไม่ได้เป็นการก่อให้เกิดความเครียดแต่อย่างใด เพราะเป็นเหมือนบ้านของ “หลินฮุ่ย” อยู่แล้ว
หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ระบุด้วยว่า ขณะนี้พบว่าเต้านมมีการขยายครบทั้ง 4 เต้าแล้ว รวมทั้งสังเกตพบว่า เริ่มมีน้ำนมด้วย นอกจากนี้ ในคอกกักพบว่า “หลินฮุ่ย” มีการสร้างรังไว้ 2 แห่ง ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์โดยเทียบเคียงข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆ รวมทั้งเมื่อครั้งที่มีการตกลูก “หลินปิง” แล้ว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะตกลูกภายใน 1 สัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงการประเมิน และคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยทางทีมงานได้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว