ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทีมงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย ตัดสินใจนำ “หลินฮุ่ย” แม่แพนด้าท้องแก่กลับเข้าสู่คอกและงดนำออกสู่ส่วนจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวชมชั่วคราว หลังพฤติกรรมดื้อหนักไม่ยอมกลับเข้าคอกกักข้ามวันข้ามคืน จึงจำเป็นต้องฝึกให้เชื่อฟัง หวั่นตกลูกในส่วนจัดแสดงที่อาจจะไม่ปลอดภัยและดูแลยาก
ความคืบหน้าการตั้งท้องแม่แพนด้า “หลินฮุ่ย” ของสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่วันนี้ (16 ต.ค.) ตั้งท้องเป็นวันที่ 117 นับตั้งแต่วันที่ได้รับการผสมพันธุ์ จากการประเมินสถานการณ์ร่วมกันทีมงานโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทยได้ตัดสินใจใช้อาหารล่อให้ “หลินฮุ่ย” เข้าสู่คอกกัก และงดปล่อยออกสู่ส่วนจัดแสดงให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวชมตามปกติ
โดยมีการติดป้ายแจ้งให้ผู้ที่เข้าชมทราบ หลังจากที่ “หลินฮุ่ย” มีพฤติกรรมดื้อรั้นอย่างหนักและไม่ยอมกลับเข้าสู่คอกกักตั้งแต่วานนี้จนถึงวันนี้เป็นเวลาต่อเนื่องกันกว่า 25 ชั่วโมง โดยคืนที่ผ่านมาได้นอนหลับอยู่ในส่วนจัดแสดงไม่ยอมกลับเข้าไปนอนในคอกกักตามปกติ ทั้งนี้เพื่อเป็นฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง โดยเฉพาะในช่วงท้องแก่ใกล้ตกลูก เพื่อให้กลับเข้าไปนอนในคอกกักตามคำสั่ง เพราะหากตกลูกในคอกกักจะมีความปลอดภัยมากกว่าและดูแลได้สะดวกกว่าการตกลูก
โดยนายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางทีมงานได้มีการหารือกันแล้วจนได้ข้อสรุปในการนำ “หลินฮุ่ย” กลับเข้าคอกกัก โดยใช้วิธีการเอาแอปเปิลที่เป็นผลไม้สุดโปรดของ “หลินฮุ่ย” เป็นตัวล่อวางไว้ตามทางไปสู่คอกกักซึ่งต้องใช้เวลากว่า 30 นาทีกว่าที่จะนำ “หลินฮุ่ย” เข้าคอกกักและปิดประตูงดปล่อยให้ออกสู่ส่วนจัดแสดง การทำเช่นนี้เพื่อเป็นการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งหลังจากที่ช่วงนี้ “หลินฮุ่ย” จะดื้อมาก และเพื่อเป็นความพยายามควบคุมให้ “หลินฮุ่ย” ตกลูกในคอกกักแทนที่จะเป็นส่วนจัดแสดง
ทั้งนี้ เพราะหากตกลูกในคอกกักจะปลอดภัยและดูแลได้ง่ายกว่า เหมือนกับทุกแห่งที่มักจะเลือกให้แม่แพนด้าท้องแก่อยู่ในคอกกักเป็นหลักด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ โดยในกรณีของ “หลินฮุ่ย” มีความเป็นไปได้เช่นกันที่อาจจะให้อยู่ในคอกกักต่อไปจนกระทั่งตกลูกเลยก็ได้ เพื่อความปลอดภัยของลูกแพนด้าที่จะเกิดและสะดวกในการทำงานของทีมงานซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นการสร้างความเครียดให้แก่ “หลินฮุ่ย” แต่อย่างใด