สุรินทร์ - ญาติผู้ป่วยชาวกัมพูชาสุดซึ้งน้ำใจทหารไทย หลัง “ผบ.กกล.สุรนารี” อนุโลมสั่งอนุญาตให้รถพยาบาลฉุกเฉินกัมพูชาข้ามแดนด่านช่องจอม อ.กาบเชิง เข้าไปส่งผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลันถึงโรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ และแพทย์ไทยช่วยชีวิตได้ทันเวลารอดตายหวุดหวิด
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ประตูด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม ต.ด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ตำรวจ ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวตรวจสอบรถพยาบาลฉุกเฉินประเทศกัมพูชา ซึ่งนำนายเจิ๊ด ปรม อายุ 72 ปี ผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลันจากโรงพยาบาลจังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เพื่อนำตัวส่งให้แพทย์โรงพยาบาลสุรินทร์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ผ่านเข้ามายังเขตไทยได้ เนื่องจากผู้ป่วยไม่มีเอกสารผ่านแดน ท่ามกลางความหวั่นวิตกของบุตรหลานนายเจิ๊ดซึ่งมีอาการทรุดหนัก
ขณะที่ทางญาติชาวกัมพูชาได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ขออนุญาต พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) เพื่อให้พิจารณาอนุโลมในการข้ามแดนและเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย ซึ่ง พล.ต.สนธยาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อนุญาตให้นำตัวผู้ป่วยชาวกัมพูชาข้ามแดนส่งไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ได้ทันที ทั้งนี้เพื่อมนุษยธรรมและความเป็นประเทศเพื่อนบ้านของทั้งสองประเทศ ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว ญาติพี่น้องของนายเจิ๊ด
นางทอง ชวด น้องสาวของนายเจิ๊ด ปรม กล่าวว่า ขอแสดงความขอบคุณผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ที่มีคำสั่งอนุญาตให้ผ่านแดนได้อย่างทันเวลา จนส่งผลให้อาการหัวใจกำเริบเฉียบพลันของนายเจิ๊ดพ้นขีดอันตรายและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์ หากไม่ได้รับความเมตตา ครอบครัวคงต้องสูญเสียนายเจิ๊ดไปอย่างแน่นอน