นครปฐม - สโมสรไลออนส์ภาครวม 310 ประเทศไทย เปิดค่ายการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ครั้งที่ 2 เพื่อนำเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกสู่รอบชิงชนะเลิศ จำนวน 40 โรงเรียน ร่วมทำกิจกรรมในลักษณะเข้าค่ายเพื่อพัฒนา และส่งเสริมให้เยาวชนได้เข้าถึงสาระความรู้จากการอ่านสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่โรงแรมริเวอร์ อ.เมือง จ.นครปฐม ศาสตราจารย์กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ ราชบัณฑิต เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ครั้งที่ 2 โครงการสร้างสรรค์ปัญญา พัฒนาเขียนอ่าน สืบสานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยมีนักเรียน และเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวในช่วงเวลาของการปิดภาคเรียนอย่างคับคั่ง
ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสานต่อจากโครงการพัฒนาความรู้หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กลุ่มโรงเรียนกรมสามัญศึกษา จังหวัดนครปฐม และสโมสรไลออนส์นครปฐม ได้ริเริ่มจัดดำเนินงานขึ้น เมื่อปีพุทธศักราช 2537 และต่อมา ได้มีการจัดดำเนินการเป็นภาพรวมทั้งประเทศ โดยสโมสรไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ด้วยการจัดการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ครั้งที่ 1 และจากนั้นเป็นต้นมา ก็ได้มีการจัดการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่าน โดยเฉพาะในเด็ก และเยาวชนทั้งในระบบโรงเรียน และนอกระบบโรงเรียน เพื่อให้หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับในเด็กและเยาวชนก่อประโยชน์อย่างกว้างขวางมากขึ้น สมดังพระราชดำริที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สโมสรไลออนส์ภาคสากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ได้มีโอกาสสนองพระราชประสงค์ในการจัดพิมพ์หนังสือ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
โครงการสร้างสรรค์ปัญญา พัฒนาเขียนอ่าน สืบสานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมแห่งความจงรักภักดี ที่สโมสรไลออนส์ดำเนินการจัดขึ้น ซึ่งครั้งที่ 1 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2555 และในส่วนของครั้งที่ 2 ที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ทางสโมสรไลออนส์ฯ ได้นำผู้แทนนักเรียนจากโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจากทั่วประเทศ จำนวน 40 โรงเรียน เข้าค่ายทำกิจกรรมเพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ในเชิงสร้างสรรค์ และสร้างเสริมคุณค่าการเรียนรู้แก่เยาวชนที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ตลอดจนเพื่อให้เด็กได้เข้าถึงสาระความรู้จากการอ่านสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน รวมทั้งได้ฝึกการเขียน และทำงานเป็นทีม เพื่อให้เด็กสามารถแสดงความคิด เกิดจินตนาการ และประสบการณ์ได้กว้างขวางขึ้นจากการเรียนในชั้นเรียน ซึ่งนับเป็นการเรียนรู้ที่เกิดประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมอบรมในช่วงปิดภาคเรียนด้วยการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่โรงแรมริเวอร์ อ.เมือง จ.นครปฐม ศาสตราจารย์กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ ราชบัณฑิต เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ครั้งที่ 2 โครงการสร้างสรรค์ปัญญา พัฒนาเขียนอ่าน สืบสานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยมีนักเรียน และเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวในช่วงเวลาของการปิดภาคเรียนอย่างคับคั่ง
ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสานต่อจากโครงการพัฒนาความรู้หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กลุ่มโรงเรียนกรมสามัญศึกษา จังหวัดนครปฐม และสโมสรไลออนส์นครปฐม ได้ริเริ่มจัดดำเนินงานขึ้น เมื่อปีพุทธศักราช 2537 และต่อมา ได้มีการจัดดำเนินการเป็นภาพรวมทั้งประเทศ โดยสโมสรไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ด้วยการจัดการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ครั้งที่ 1 และจากนั้นเป็นต้นมา ก็ได้มีการจัดการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่าน โดยเฉพาะในเด็ก และเยาวชนทั้งในระบบโรงเรียน และนอกระบบโรงเรียน เพื่อให้หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับในเด็กและเยาวชนก่อประโยชน์อย่างกว้างขวางมากขึ้น สมดังพระราชดำริที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สโมสรไลออนส์ภาคสากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ได้มีโอกาสสนองพระราชประสงค์ในการจัดพิมพ์หนังสือ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
โครงการสร้างสรรค์ปัญญา พัฒนาเขียนอ่าน สืบสานสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมแห่งความจงรักภักดี ที่สโมสรไลออนส์ดำเนินการจัดขึ้น ซึ่งครั้งที่ 1 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2555 และในส่วนของครั้งที่ 2 ที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ทางสโมสรไลออนส์ฯ ได้นำผู้แทนนักเรียนจากโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจากทั่วประเทศ จำนวน 40 โรงเรียน เข้าค่ายทำกิจกรรมเพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ในเชิงสร้างสรรค์ และสร้างเสริมคุณค่าการเรียนรู้แก่เยาวชนที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ตลอดจนเพื่อให้เด็กได้เข้าถึงสาระความรู้จากการอ่านสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน รวมทั้งได้ฝึกการเขียน และทำงานเป็นทีม เพื่อให้เด็กสามารถแสดงความคิด เกิดจินตนาการ และประสบการณ์ได้กว้างขวางขึ้นจากการเรียนในชั้นเรียน ซึ่งนับเป็นการเรียนรู้ที่เกิดประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมอบรมในช่วงปิดภาคเรียนด้วยการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์