นายอารีย์ สืบวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญสำนักบริหารกลาง องค์การค้าของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า องค์การค้าของ สกสค. จัดตั้งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การศึกษาของชาติ มีภารกิจสำคัญคือ ผลิตและจำหน่ายหนังสือเรียน สื่อการเรียนการสอน และสื่อส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ทุกประเภท แต่ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาองค์การค้าของ สกสค. โดนโจมตีในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนที่อ้างว่ามีความล่าช้า หรือการกล่าวหาผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่องค์การค้าของ สกสค. ว่ามีการทุจริต
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้บริหารองค์การค้าของ สกสค. ได้เข้ามาแก้ไขฟื้นฟูองค์กร เพื่อลดการดำเนินงานที่ขาดทุนสะสมมาโดยตลอด มีการปรับเปลี่ยนนโยบายทำให้มีผู้เสียประโยชน์ ดังนั้นจึงเกิดการสร้างกระแส เพื่อปลดผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. และเกิดขบวนการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปั่นป่วน และสร้างความเสียหายให้กับองค์การค้าของ สกสค. โดยขณะนี้เรากำลังเร่งสางปัญหาดังกล่าว โดยมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับสังคมและหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เพื่อให้ระบบการศึกษาไทยหลุดพ้นจากการครอบงำของกลุ่มอิทธิพลที่มุ่งหวังผลประโยชน์ด้านการเงิน
ทั้งนี้ในปี 2558 องค์การค้าของ สกสค. ตั้งเป้าผลประกอบการ ไว้ 4,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2557 กว่าร้อยละ 12 โดยในปีที่ผ่านมามีผลประกอบการ 4,000 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่จะเพิ่มขึ้น มาจากการปรับตัวหลายประการทั้งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และอยู่ในระหว่างดำเนินการ เช่น การขยายร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ผ่านระบบแฟรนไชส์ การผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือแบบเรียนที่ผสมผสานเทคโนโลยี AR Code การบริหารจัดการลิขสิทธิ์ตราสัญลักษณ์ ลูกเสือไทย และการเพิ่มศักยภาพโรงพิมพ์ เช่น การให้บริการโรงพิมพ์ซิเคียวริตี้ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพิมพ์งานในรูปแบบที่เป็นความลับสุดยอด เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้บริหารองค์การค้าของ สกสค. ได้เข้ามาแก้ไขฟื้นฟูองค์กร เพื่อลดการดำเนินงานที่ขาดทุนสะสมมาโดยตลอด มีการปรับเปลี่ยนนโยบายทำให้มีผู้เสียประโยชน์ ดังนั้นจึงเกิดการสร้างกระแส เพื่อปลดผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. และเกิดขบวนการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปั่นป่วน และสร้างความเสียหายให้กับองค์การค้าของ สกสค. โดยขณะนี้เรากำลังเร่งสางปัญหาดังกล่าว โดยมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับสังคมและหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เพื่อให้ระบบการศึกษาไทยหลุดพ้นจากการครอบงำของกลุ่มอิทธิพลที่มุ่งหวังผลประโยชน์ด้านการเงิน
ทั้งนี้ในปี 2558 องค์การค้าของ สกสค. ตั้งเป้าผลประกอบการ ไว้ 4,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2557 กว่าร้อยละ 12 โดยในปีที่ผ่านมามีผลประกอบการ 4,000 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่จะเพิ่มขึ้น มาจากการปรับตัวหลายประการทั้งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และอยู่ในระหว่างดำเนินการ เช่น การขยายร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ผ่านระบบแฟรนไชส์ การผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือแบบเรียนที่ผสมผสานเทคโนโลยี AR Code การบริหารจัดการลิขสิทธิ์ตราสัญลักษณ์ ลูกเสือไทย และการเพิ่มศักยภาพโรงพิมพ์ เช่น การให้บริการโรงพิมพ์ซิเคียวริตี้ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพิมพ์งานในรูปแบบที่เป็นความลับสุดยอด เป็นต้น